วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

28 ธันวา 57 ร่วมสักการะสังขาร หลวงพ่อพูล ณ วัดไผ่ล้อม นครปฐม


พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กิตติจิตโต หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เปิดเผยว่า ขอเชิญญาติคณะศิษยานุศิษย์ร่วมกราบสักการะสังขาร หลวงพ่อพูล พร้อมเปลี่ยนผ้าครอง และลงกระหม่อม ในพิธีเปลี่ยนผ้าครอง พระมงคลสิทธิการ หรือ หลวงพ่อพูล อัตตรักโข อมตะเถราจารย์แห่งวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ที่สร้างคุณูปการไว้มากมายในบวรพุทธศาสนาเป็นที่ประจักษ์ จวบจนเมื่อท่านละสังขาร สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย คงสภาพเดิมทุกประการ ทำให้ทุกวันนี้ บนศาลาการเปรียญที่ประดิษฐาน มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมากราบสังขารทุกวัน

ในวันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค.2557 ตั้งแต่เวลา 18.09 น. พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ ประธานมูลนิธิหลวงพ่อพูล จัดพิธีถวายสักการะสรีระหลวงพ่อพูล สวดพระพุทธมนต์ ประกอบพิธีสรงน้ำเช็ดตัว เปลี่ยนผ้าครองสังขารหลวงพ่อพูล ที่ศาลาการเปรียญวัดไผ่ล้อม

สำหรับพิธีลงกระหม่อม โดยในระหว่างเวลาดังกล่าว หลวงพี่น้ำฝน เปิดโอกาสให้ญาติโยมพุทธศาสนิกชน เข้ากราบสักการะสังขารหลวงพ่อพูลอย่างใกล้ชิด สามารถ ก้มกราบน้อมศีรษะจรดแตะไปที่ปลายเท้าเพื่อความเป็นสิริมงคล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม โทร.08-7698-4777, 08-7151-7799


*************************

เรื่องโดย : ข่าวสดออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ







วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ด่วน!! ไฟไหม้ "พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ" พระพันปี คู่สัมพันธ์ไทย-ลาว


เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. พ.ต.อ.ปรีชา จะบัง ผกก.สภ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจาก พระครูพุทธมาธิคุณ เจ้าอาวาส วัดพระโต บ้านปากแซง ต.พะลาน อ.นาตาล ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในอุโบสถที่ประดิษฐาน พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ พระพุทธรูปปางมาวิชัย สร้างด้วยอิฐผสมปูนขาว ที่มีอายุกว่า 1,400 ปี!! จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ถนอม สิริโรจน์ธนสาร หัวหน้าพนักงานสอบสวนและรถดับเพลิง อบต.พะลานเข้าร่วมระงับเหตุนานประมาณ 30 นาที เพลิงได้สงบลง

โดยจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือ บริเวณที่ตั้งโต๊ะหมู่บูชาที่ให้ประชาชนใช้จุดธูปเทียนบูชาพระ โดยไฟได้ลุกลามไหม้พรมที่ปูพื้น รวมทั้งข้าวของที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของพระพุทธรูปเสียหายทั้งหมด และควันไฟที่อบอยู่นาน ยังทำให้ภาพวาดที่ฝาผนังพระอุโบสถเสียหาย รวมทั้งมีเขม่าควันลอยไปติดตามตัวองค์พระจนเกิดเป็นคราบดำ แต่เปลวไฟไม่ได้สร้างความเสียหายให้ตัวองค์พระ และโครงสร้างอื่นๆ ของพระอุโบสถ สำหรับมูลค่าความเสียหาย ต้องรอผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุมาตรวจสอบก่อน

พระครูพุทธมาธิคุณ ให้การว่า ช่วงหัวค่ำหลังพุทธศาสนิกชนพากันกลับหมดแล้ว พระเณรที่ดูแลพระอุโบสถที่ใช้ดิษฐาน พระพุทธรูปได้ปิดประตูโบสถ์ตามปกติ กระทั่งตกดึกพระเณรที่จำวัดอยู่ใกล้โบสถ์ได้กลิ่นควันไฟ จึงพากันลุกขึ้นมาดูและเห็นมีเปลวไฟในโบสถ์ จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยดับไฟ

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ว่าน่า จะเกิดจากการดับธูปเทียนที่ประชาชนจุดบูชาไม่สนิท ทำให้เกิดเพลิงไหม้บริเวณพรมที่ใช้ปูให้ประชาชนนั่งกราบไหว้ ทั้งนี้ จะให้เจ้าหน้าที่แผนกพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ เพื่อสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจนอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ วัดพระโต บ้านปากแซง ถือเป็นพระพุทธรูปที่ชาวไทย และชาวลาวให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก ตั้งประดิษฐานหันหน้าไปทางแม่น้ำโขง ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปที่คอยปกปักดูแลประชาชน ที่ใช้พาหนะเดินทางทางเรือในแม่น้ำโขง สร้างขึ้นในราว พ.ศ.1154 โดยพระยาแข้วเจ็ดถัน

( ข่าวที่เกี่ยวข้อง http://mongkhonphra.blogspot.com/2014/04/2.html )



*************************


เรื่องโดย : ข่าวสดออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ