แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หลวงพ่อพูล แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หลวงพ่อพูล แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คณะสงฆ์นครปฐม ติวเข้มเจ้าอาวาส และ ไวยาวัจกร


คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐมได้ตื่นตัวขานรับ ร่วมมือกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม จุดประกายจัดโครงการถวายความรู้เจ้าอาวาส และอบรมไวยาวัจกร เพื่อให้สามารถจัดทำบัญชีรับจ่าย และดูแลรักษาศาสนสมบัติที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดได้อย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรมสืบต่อไปในอนาคต

การอบรมครั้งใหญ่นี้กำหนดจัดขึ้นในวันอังคารที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ สถานที่ก่อสร้าง วิหารหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ร่วมกับคณะสงฆ์ จัดโครงการถวายความรู้เจ้าอาวาสและอบรมไวยาวัจกร จัดขึ้นตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐-๑๖.๐๐ น. โดยนิมนต์พระสงฆ์และเชิญไวยาวัจกรจากวัดในเขตอำเภอเมืองนครปฐม กำแพงแสน ดอนตูม สามพราน นครชัยศรี บางเลน และอำเภอพุทธมณฑล

ในโอกาสดังกล่าวนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ได้ร่วมกับ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาส วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม จัดทำโครงการถวายความรู้เจ้าอาวาสและอบรมไวยาวัจกรจังหวัดนครปฐมขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้มีเจ้าอาวาสวัดจำนวน ๒๒๐ รูป และไวยาวัจกรวัดจำนวน ๒๒๐ คน

นายวิโรจน์ อุ่นทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า การจัดโครงการดังกล่าวนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การจัดทำบัญชีรับจ่าย และการดูแลรักษาศาสนสมบัติของวัดเป็นไปอย่างถูกต้อง เนื่องจากเจ้าอาวาสและไวยาวัจกรถือว่ามีหน้าที่และบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการจัดทำบัญชีรับจ่ายของวัด รวมทั้งต้องดูแลทรัพย์สินศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย นอกจากนี้ยังทำให้ไวยาวัจกรได้ทราบบทบาทหน้าที่อันจะนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เรียนรู้ การปฏิบัติหน้าที่ของไวยาวัจกรในแต่ละวัดซึ่งอาจมีความแตกต่างกันออกไป

ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๑๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ ข้อ ๖ ให้เจ้าอาวาสวัด ให้ไวยาวัจกร หรือผู้จัดประโยชน์ของวัดซึ่งเจ้าอาวาสแต่งตั้งทำบัญชีรับจ่ายเงินของวัด และเมื่อสิ้นปีปฏิทินให้ทำบัญชีเงินรับจ่าย และคงเหลือ ทั้งนี้ ให้เจ้าอาวาสตรวจตราดูแล ให้เป็นไปโดยเรียบร้อย จากกฎกระทรวงดังกล่าว เจ้าอาวาสและไวยาวัจกรถือว่ามีหน้าที่และบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำบัญชีรับจ่ายของวัดให้ถูกต้อง อีกทั้งต้องดูแลทรัพย์สิน ศาสนสมบัติของวัด ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า ปัจจุบันวัดมีบทบาทสำคัญต่อสังคมไทยมาแต่อดีตเป็นเวลายาวนาน ความผูกพันกับวัดเกี่ยวข้องกับบุคคล ชุมชน และสังคมมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่ช่วงวัยแรกและช่วงสุดท้ายของชีวิต กิจกรรมภายในวัดมีความหลากหลาย ตั้งแต่เพียงเป็นสถานที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์ ให้พุทธศาสนิกชนเข้ามาทำบุญและประกอบศาสนกิจต่างๆ จนถึงการเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งนันทนาการ ศูนย์กลางการเรียนรู้ การพัฒนา การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน กิจกรรมที่มีการดำเนินการในวัดมีความหลากหลาย ได้แก่ การทำบุญ ทำทาน ในรูปแบบต่างๆ การประกอบพิธีกรรมทางศาสนา งานศพ งานบวช งานแต่งงาน งานวันเกิด ฯลฯ การเช่าหาวัตถุมงคล การจัดงานนันทนาการในรูปแบบต่างๆ (งานวัด) เป็นต้น


*************************

เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ



วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ร่วมบุญ เปลี่ยนผ้าครอง หลวงพ่อพูล เทพเจ้าแห่งวัดไผ่ล้อม นครปฐม


พระมงคลสิทธิการ หรือ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข พระอมตะเถราจารย์แห่ง วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่มีประชาชนให้ความเคารพศรัทธาทั่วประเทศ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ด้วยความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เสมอต้นเสมอปลาย ให้ความเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ทุกชั้นวรรณะ หลวงพ่อพูลท่านได้เคยสร้างคุณประโยชน์ไว้มากมายในบวรพุทธศาสนา เป็นที่ประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรม ถาวรวัตถุทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจากความตั้งใจ จรรโลงไว้เพื่อคุณงามความดี มีหลักยึดพระธรรมในการรังสรรค์ด้วยความเสียสละ เพื่อสังคมส่วนรวมอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๔๘ ตรงกับวันวิสาขบูชา ท่านได้ละสังขารอย่างสงบ จวบจนวันนี้ครบ ๑๐๑ ปีชาตกาล สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย คงสภาพเดิมทุกประการ พุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศต่างแห่แหนเดินทางมากราบสักการะสังขารของท่านมิขาดสาย ทำให้ทุกวันนี้บนศาลาการเปรียญ ที่ประดิษฐานสังขารของท่านมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมากราบสังขารหลวงพ่อแน่นขนัดทุกวัน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต เพื่อความเป็นสิริมงคลในหน้าที่การงาน ค้าขายดีมีกำไร ไม่เจ็บไม่จน กินอิ่มนอนอุ่น ตลอดไป

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน ทายาทศิษย์เอกแห่งองค์หลวงพ่อพูล ผู้ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิหลวงพ่อพูล และเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้กล่าวว่า ในระหว่างที่หลวงพ่อพูลยังมีชีวิตอยู่นั้น มีชาวบ้านมาให้ท่านเจิมแป้งนะเมตตามหามงคล นับเป็นความเมตตาของหลวงพ่อพูลที่มีต่อลูกศิษย์ลูกหาทั่วไปอย่างมาก โดยเชื่อว่าการเจิมแป้งที่เสกโดยพระเกจิอาจารย์นั้น ถือเป็นการเสริมบารมี และส่งผลให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในชีวิต มีโชค มีลาภ ร่ำรวยมหาศาล ไม่เจ็บ ไม่จน กินอิ่ม นอนอุ่นตลอดกาล จากนั้นญาติโยมเหล่านี้จะเดินทางกลับมาให้เจิมอีก เพราะต่างสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา นี่คือที่มาแห่งการเจิมแป้งนะเมตตามหามงคล ตำรับหลวงพ่อพูลที่เป็นอมตะมายาวนานจวบจนปัจจุบันนี้


อย่างไรก็ตามใน วันอาทิตย์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘ นี้ หลวงพี่น้ำฝน จะเปิดโอกาสให้ญาติโยมศิษยานุศิษย์ ได้สัมผัสหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด โดยจัดให้มีพิธีถวายสักการะสรีระพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล สวดพระพุทธมนต์ ประกอบพิธีสรงน้ำเช็ดตัวเปลี่ยนผ้าครองที่สังขารหลวงพ่อพูล ตั้งแต่เวลา ๑๗.๐๐ น.เป็นต้นไป ณ ศาลาปุริมานุสรณ์ (ศาลาการเปรียญ) วัดไผ่ล้อม

สำหรับพิธีลงกระหม่อม โดยในระหว่างเวลาดังกล่าวนี้ หลวงพี่น้ำฝน ท่านเปิดโอกาสให้ญาติโยมพุทธศาสนิกชน เข้ากราบสักการะสังขารหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด ด้วยการก้มกราบน้อมศีรษะจรดแตะไปที่ปลายเท้าหลวงพ่อ เพื่อความเป็นสิริมงคล กับครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้สัมผัสพระอริยสงฆ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม โทร.๐๘-๕๔๑๕-๖๔๖๔ และ ๐๖-๑๗๘๒-๖๔๖๒ หรือ ที่ www.watpailom.org


*************************

เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ



วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

หลวงพี่น้ำฝน ทุ่มงบ 5 แสน เพื่อ รพ.นครปฐม


ที่ วิหารหลวงพ่อพูล ภายใน วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้จัดให้มีพิธีมอบเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อด้วยแรงดันไอน้ำ(AUTOCLAVE) ขนาดความจุไม่น้อยกว่า 84 ลิตร MODSEL 3140 M ยี่ห้อ TUTTNAUEL ให้กับโรงพยาบาลนครปฐม หลังจากได้รับการขอสนับสนุนเครื่องดังกล่าวฯ จากทางโรงพยาบาลนครปฐม ที่ขาดแคลนงบในการขยายการให้บริการประชาชนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมีนายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน ผอ.โรงพยาบาลนครปฐม,นพ.ธีรชัย ประติพัฒน์พงษ์ รองผอ.โรงพยาบาลนครปฐม แพทย์และเจ้าหน้าที่พยาบาล โรงพยาบาลนครปฐม เข้ารับมอบ

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลนครปฐม ได้ขอให้ทางวัดช่วยสนับสนุนเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อด้วยแรงดันไอน้ำ(AUTOCLAVE) ขนาดความจุไม่น้อยกว่า 84 ลิตร MODSEL 3140 M แทนเครื่องเก่าที่ชำรุด อีกทั้งทางโรงพยาบาลก็ยังขาดงบประมาณในส่วนนี้ ทางอาตมาจึงได้นำเงินที่ญาติโยมบริจาคและทำบุญมาซื้อเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อให้กับโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อเป็นประโยชน์สาธารณชนและประชาชนที่เจ็บป่วยและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งเครื่องนึ่งดังกล่าวนี้ราคา 5 แสนบาท และต้องสั่งซื้อจากประเทศฮอลแลนด์ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากทวีปยุโรป,อเมริกา และบริษัทฯจะต้องมีหนังสือรับรองการเป็นตัวแทนจำหน่ายจากโรงงานผลิตเท่านั้น

ด้าน นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน ผอ.โรงพยาบาลนครปฐม กล่าวว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลนครปฐม ได้ทำการขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้งบประมาณเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดศูนย์โรคหัวใจเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงที่มีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง ให้สามารถรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต่อไปก็จะมีการขยายโครงการต่างๆ อีกหลายโครงการเพื่อรองรับและให้บริการประชาชนที่เข้ามาใช้บริการอย่างครบครัน ซึ่งเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อด้วยแรงดันไอน้ำ(AUTOCLAVE) ขนาดความจุไม่น้อยกว่า 84 ลิตร MODSEL 3140 M ที่ได้รับในวันนี้ เป็นเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อด้วยแรงดันไอน้ำ( Steam) ชนิดตั้งโต๊ะ ภายในเป็นรูปทรงกระบอก ใช้ไฟ230 โวลต์ 50 เฮิรตซ์ เครื่องสามารถปรับอุณหภูมิภายในห้องนึ่ง ตั้งแต่100 -134 องศา เซลเซียส ใช้ในการฆ่าเชื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ในห้องไอซียู และห้องผ่าตัด มีตัวตั้งเวลา(Timer)ในการฆ่าเชื้อโรค และเวลาในการอบแห้งอันเดียวกัน สามารถตั้งเวลาได้ 0-60 นาที ซึ่งเครื่องนึ่งนี้ มีประโยชน์มากสำหรับทางโรงพยาบาล เพราะการฆ่าเชื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ในการแพทย์ เป็นสิ่งสำคัญมากอันดับ 1 ยิ่งในห้องผ่าตัดที่ต้องการความรวดเร็วกรณีคนไข้ฉุกเฉิน เครื่องนึ่งดังกล่าวนี้ก็จะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้การบริการของโรงพยาบาลเป็นไปอย่างรวดเร็วและส่งผลถึงความปลอดภัยของคนไข้ด้วย


*************************

เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ



วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เหรียญเทพยดาประจำวันเกิด วัดไผ่ล้อม นครปฐม



ตามตำราโบราณกล่าวว่า มนุษย์ทุกคนเมื่อเกิดขึ้นมา ล้วนต้องมีเทพยดาประจำตัว ประจำวันเกิด คุ้มครองป้องกันภยันตราย ปกปักรักษา โดยเฉพาะเทวดานพเคราะห์ประจำวันเกิดนั้น มีเทวฤทธิ์ เป็นเทพยดาศักดิ์สิทธิ์ ประจำวันเกิดทั้ง 9 พระองค์ คือ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสฯ พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู และพระเกตุ

ที่ผ่านมามีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีต จัดสร้างเป็นวัตถุมงคลเทพประจำวันเกิดให้นักสะสมบูชา 
ล่าสุด พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ พระอาจารย์น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ศิษย์สายตรงหลวงพ่อพูล ได้จัดสร้าง "วัตถุมงคลเทพยดาประจำวันเกิด" ขึ้น เพื่อเปิดให้ลูกศิษย์ลูกหาร่วมบุญบูชา


ทางวัดได้จัดให้มีพิธีสวดนพเคราะห์เสริมบารมีเป็นประจำทุกปี ในห้วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่ารับพรปีใหม่ มีประชาชนจำนวนมากมายเข้าร่วมพิธี และต่างกล่าวขวัญถึงขวัญกำลังใจที่ได้รับความสุขสวัสดีในชีวิตอย่างรอบด้าน สราญสุขชั่วนิรันดร์จวบจนปัจจุบัน และที่สำคัญในปี พ.ศ.2555 ดาวพระราหูโคจรในราศีตุล สถิตในตำเเหน่งเดียวกับพระเสาร์ ในวันจันทร์ที่ 10 ธ.ค.2555 กล่าวคือ 

เมื่อพระราหูโคจรมาตรงกับพระเสาร์ ย่อมหนุนส่งกำลังถึงกัน อาจส่งผลร้ายอย่างเหลือเชื่อ รวดเร็ว โดยไม่ทันตั้งตัว ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของดวงชะตาแต่ละบุคคล 

ฉะนั้น จึงต้องบูชาพระราหูคู่มิตรพระเสาร์ และเหรียญเทพประจำวันเกิด ทั้ง 9 พระองค์ เพื่อรับแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ตามตำนานโบราณ แม้ว่าราหูจะให้โทษก็จริง แต่หากว่าผู้ใดที่บูชาพระราหูก็เชื่อว่าจะพ้นจากบาปเคราะห์

ฉะนั้น การเสริมมงคลชะตาในปีนี้ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ จึงได้อัญเชิญเทพยดาพระราหู เทพยดาพระเสาร์ พร้อมทั้งเทพประจำวันเกิด ทั้ง 9 พระองค์ ลงมาสถิต สร้างขึ้นเป็นมงคล

วัตถุมงคลประจำวันเกิดที่จัดสร้างขึ้นในครั้งนี้ ประกอบด้วย 

- เหรียญเทพยดาพระราหูคู่มิตรเสาร์ พุทธลักษณะด้านหน้า พระอิศวรทรงพระราหูเป็นพาหนะ
- เหรียญเทพยดาประจำวันเกิด วันอาทิตย์ พุทธลักษณะด้านหน้า พระอิศวร ทรงพาหนะราชสีห์
- เหรียญเทพประจำวันเกิด วันจันทร์ พุทธลักษณะด้านหน้า พระอิศวรทรงพาหนะม้า 
- เหรียญเทพยดาประจำวันเกิด วันอังคาร พุทธลักษณะด้านหน้า พระอิศวรทรงพาหนะกระบือ
- เหรียญเทพยดาประจำวันเกิด วันพุธ (กลางวัน) พุทธลักษณะด้านหน้า พระอิศวรทรงพาหนะช้าง 
- เหรียญเทพยดาประจำวันเกิด วันพฤหัสฯ พุทธลักษณะด้านหน้า พระอิศวรทรงกวางเป็นพาหนะ 
- เหรียญเทพยดาประจำวันเกิด วันศุกร์ พุทธลักษณะด้านหน้า พระอิศวรทรงพาหนะโค อศุภราช
- เหรียญเทพยดาประจำวันเกิด วันเสาร์ พุทธลักษณะด้านหน้า พระอิศวรทรงเสือเป็นพาหนะ
- เหรียญเทพยดาประจำวันเกิด วันพุธ (กลางคืน) พระราหู พุทธลักษณะด้านหน้า พระอิศวรทรงพระราหูเป็นพาหนะ 
- เหรียญเทพประจำวันเกิด พระเกตุ พุทธลักษณะด้านหน้า พระอิศวรทรงพญานาคเป็นพาหนะ

พิธีเทวาภิเษกปลุกเสกใหญ่ พร้อมสวดนพเคราะห์เสริมบารมี 
ใน วันจันทร์ที่ 10 ธ.ค.2555 เวลา 16.39 น. อธิษฐานจิตโดย พระคณาจารย์ 16 รูป อาทิ

- หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
- พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี
- หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา
- หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี
- หลวงพ่อยวง วัดโพธิ์ศรี จ.ราชบุรี
- หลวงพ่อดำ วัดสุวรรณคีรี กรุงเทพฯ
- หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
- หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
- หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ จ.สุพรรณบุรี
- หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา
- หลวงพ่อผล วัดอินทาราม จ.พระนครศรีอยุธยา
- หลวงพ่อแขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก
- หลวงตาละมัย วัดอรัญญิก จ.พิษณุโลก
- หลวงพ่อไพรินทร์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
- หลวงพ่อเจริญ วัดโนนสว่าง จ.อุดรธานี
- หลวงพ่ออาด วัดบุญสัมพันธ์ จ.ชลบุรี

สอบถามได้ที่วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปัจจัยที่ได้จากการบูชาวัตถุมงคล จะนำไปร่วมสมทบทุนสร้าง "วิหารหลวงพ่อพูล" ณ วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ให้แล้วเสร็จต่อไป

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555


พระเสาร์ คู่มิตร




วัดในประเทศไทยส่วนใหญ่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ 

สำหรับวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ก็มีอยู่หลายองค์ รวมถึงรูปเหมือนองค์เทพต่างๆ ด้วย ล่าสุดทางวัดได้จัดสร้างพระพุทธรูปเพิ่มอีก 1 องค์ นั่นก็คือ "พระปรก 9 เศียร" เพื่อให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บุญวัด

"พระครูปลัดสิทธิวัฒน์" เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมกล่าวว่า วัดไผ่ล้อมได้ดำเนินการสร้างพระปรก 9 เศียรฉลองปีพุทธชยันตี มีศิษยานุศิษย์พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล เป็นเจ้าภาพใหญ่ แต่ก็เปิดให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้ร่วมพิธีเททองในการสร้างครั้งนี้

พระที่สร้างเป็นพระพุทธรูปประธานปางนาคปรก 9 เศียร สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ขนาดหน้าตัก 29 นิ้ว สูง 2 เมตร เพื่อนำมาประดิษ ฐานไว้ ณ สวนอายุวัฒนมงคล 90 ปี หลวงพ่อพูลโดยมีพิธีเททองอย่างยิ่งใหญ่ไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับ "พระปรก 9 เศียร" นั้น ในหนังสือปฐมสมโพธิกถาของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโน รส ก็ดี หนังสือพุทธานุพุทธประวัติของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ก็ดี หนังสือพุทธประวัติทัศนศึกษาของพระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารีเถระ) ก็ดี และพระคันถรจนาจารย์อีกหลายท่านได้บรรยายเนื้อหาภาพพุทธประวัติในปางนี้เนื้อหาใจความใกล้เคียงกันว่า ในต้นสัปดาห์ที่ 6 หลังจากทรงตรัสรู้ พระพุทธองค์ทรงเสวยวิมุติสุข ณ มุจลินทพฤกษ์ (ไม้จิก) อันประดิษฐานทางปรา จีนทิศแห่งมหาโพธิพฤกษ์ประทับกระทำสมาธิอยู่ภายใต้ร่มไม้นั้นเป็นเวลา 7 วัน

ในกาลนั้นฝนได้ตกพรำอยู่ตลอด 7 วัน พญา นาคมีนามว่า "มุจลินทนาคราช" มีอานุภาพมากอยู่ในสระโบกขรณี ใกล้ต้นมุจลินท์นั้น มีความเลื่อมใสในพระศิริวิลาส พร้อมทั้งพระฉัพพรรณรังสีของพระพุทธองค์ เกรงว่าพระพุทธองค์จะเปียกฝน จึงขนดกายเป็น 7 รอบ แวดวงองค์พระศาสดาแล้วแผ่พังพานอันใหญ่ ปกป้องเบื้องบนพระอุตมังคศิโรตม์ หวังประโยชน์จะไม่ให้ฝนมากระทบต้องพระวรกาย

ครั้นล่วง 7 วันแล้ว ฝนหายขาด พญานาคก็คลายขนด จำแลงกายเป็นมาณพเข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานว่า "ความสงัดเป็นสุข สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้วยินดีอยู่ในที่อันสงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง ความไม่เบียดเบียน ความสำรวมในเหล่าสัตว์ทั้งหลาย ความไม่พยาบาทปราศจากราคาทิกิเลส เหตุล่วงเสียซึ่งกามสุขในโลกนี้ และขจัดเสียซึ่งราคี คือ อัสมิมานะ ละขาดจากสันดานและสุขอันนั้น ก็จะได้รับบรมสุขเกษมสันต์ประเสริฐโดยแท้"

เมื่อเปล่งวาจาดังนี้แล้วก็ลุกจากโคนต้นมุจลินท์ไปสู่โคนไม้เกด

ข้อพิจารณาในเนื้อหานั้นนาคราชขนดกายรอบองค์พระศาสดา 7 รอบ และแผ่พังพานใหญ่ปกป้องเบื้องบนพระอุตมังคศิโรตม์ (ศีรษะ) (หากพิจารณาข้อความดังกล่าว แสดงว่าพระวรกายของพระพุทธเจ้าจะถูกบังด้วยขนด คงมองเห็นเพียงพระวรกายส่วนพระอุระ (อก) ขึ้นไปเท่านั้น แต่ภาพที่ปรากฏพระพุทธองค์จะนั่งบนขนดนาคราช สำหรับเศียรที่แผ่พังพานนั้น มีเพียงเศียรเดียวเท่านั้นภายหลังนักจิตรกรหรือประติมากรมักวาดหรือปั้น ให้เป็น 7 เศียรบ้าง 9 เศียรบ้าง

เข้าใจว่าน่าจะเป็นการวาดหรือปั้นให้เป็นธรรมา ธิษฐานดังนี้ 7 เศียร อาจเกิดมาจากความเชื่อที่ว่าเลข 7 มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระ พุทธเจ้าในวาระสำคัญ เช่น วันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน เช่น ในวันประสูติ พระพุทธเจ้าทรงดำเนินได้ 7 ก้าว เมื่อเสด็จออกผนวชแสวงหาทางพ้นทุกข์ ได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ในปีที่ 7 หลังตรัสรู้แล้วทรงใช้เวลา 7 สัปดาห์ เสวยวิมุตติสุขบริเวณอัสสัตถโพธิ์พฤกษ์ที่ตรัสรู้ทั้งหมด 7 แห่ง แห่งละ 7 วัน

เมื่อมีพระชนมายุ 80 พรรษา ได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน และเมื่อประมุขเจ้ามัลละจะทรงพยายามจุดไฟที่จิตกาธานเพื่อถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ แต่ไม่อาจจุดไฟให้ติดได้ แต่ทันทีที่พระมหากัสสปะได้เดินทางมาถึงและได้ถวายอภิวาทพระยุคลบาทพระพุทธเจ้าด้วยเศียรเกล้าเรียบร้อย จิตกาธานก็ติดไฟลุกโพลงขึ้นเองอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งวันนั้นนับเป็นวันเสด็จดับขันธปรินิพพาน ครบ 7 วันบริบูรณ์ เป็นต้น

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กล่าวว่า ศิษยานุศิษย์พระเดชพระคุณหลวง พ่อพูลตั้งใจว่าจะทำบุญสร้างพระพุทธปรก 9 เศียร เพื่อฉลอง 2600 ปีพุทธชยันตี และเพื่อเป็นพระประธานในสวนอายุวัฒนมงคล 90 ปี หลวงพ่อพูลจึงได้ตัดสินใจสร้างพระประธานไว้ให้วัดไผ่ล้อมของเรา ทุกคน และที่สำคัญเพื่อให้ญาติโยมทั่วประเทศที่เดินทางมาท่องแดนธรรมวัดไผ่ล้อม ได้สักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555



100 ปีชาติกาล หลวงพ่อพูล ละสังขาร

หลวงพี่น้ำฝน นำศิษย์ยานุศิษย์
ถวายความกตัญญูกตเวที ไหว้ครู-ครอบครู ท้าวเวสสุวรรณ
วิสาขบูชารำลึก วันจันทร์ที่ 4 มิ.ย. 55 เวลา 09.09 น.
                พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ พระมงคลสิทธิการหลวงพ่อพูล อัตตะรักโข อมตะเถราจารย์ วัดไผ่ล้อม จ. นครปฐมท่านละสังขารวันวิสาขบูชา ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2548 จวบจนวันนี้ครบ 7 ปีบริบูรณ์ รวมสิริอายุ 100 ปี ชาติกาล
วิสาขบูชารำลึก ของทุกปี วัดไผ่ล้อม จัดให้มีพิธีไหว้ครู ครอบครูบูรพาจารย์สานต่ออนุรักษ์ประเพณีดีงามตามตำรับหลวงพ่อพูล
พิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ วันวิสาขบูชา ปีนี้ตรงกับวันจันทร์ 4 มิ.ย. 55 พระเดชพระคุณพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน ทายาทศิษย์เอกหลวงพ่อพูล เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ประธานมูลนิธิหลวงพ่อพูล จัดงานสานต่อประเพณีพิธี ไหว้ครู บูรพาจารย์ จัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ประกาศคุณงามความดี ถวายความกตัญญูกตเวที แด่ครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณอันประเสริฐ
โดยในปีนี้จัดให้มีพิธีครอบเศียรท้าวเวสสุวรรณ เป็นความประสงค์ของพระเดชพระคุณหลวงพี่น้ำฝน เพื่อต้องการให้ศิษย์ทุกคน ได้รับรู้ และปฏิบัติต่อครู กตัญญูเฉกเช่นพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข ผู้เป็นอาจารย์
                ที่สำคัญพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ครอบครูเศียรท้าวเวสสุวรรณในปีนี้ พระเดชพระคุณหลวงพี่น้ำฝน ท่านได้นิมิตบัญชา เมตตาจากพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพูล ให้จัดทำพิธีไหว้ครูครอบครู ท้าวเวสสุวรรณ เพื่อสารต่ออนุรักษ์แระเพณีอันดีงาม
                ตามตำรับโบราณบันทึกไว้ว่า ท้าวเวสสุวรรณ เป็นอธิบดีแห่งอสูรย์หรือยักษ์หรือเป็นเจ้าแห่งผี เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองละดูแลโลกมนุษย์สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งมีท้าวมหาราชทั้งสี่ปกครอง คือ ท้าวธตรัฏฐะ ท้าววิรุฬหกะ ท้าววิรูปักขะ และท้าวเวสสุวรรณ ประจำทิศต่างๆทั้งสี่ทิศ โดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณ เป็นใหญ่ปกครองบริวารทางทิศเหนือดูแลปกครองรับผิดชอบมีอาณาเขตใหญ่โตมหาศาล กว้างขวาง และเป็นใหญ่กว่าท้าวมหาราชองค์อื่น
ท้าวเวสสุวรณ เป็นเทพแห่งขุมทรัพย์ เป็นมหาเทพแห่งความร่ำรวย มั่งคั่งรักษาสมบัติของเทวโลก ทั้งเป็นเจ้านายปกครองดูแลพวกยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งปวงนอกจากนี้ยังมีหน้าที่ ดูแลปกป้องคุ้มครอง พระพุทธศาสนา ปกป้องคุ้มครองแก่ผู้นั่งสมาธิปฏิบัติพระกรรมฐาน เป็นต้น
ในคัมภีร์โบราณ ได้กล่าวไว้ว่า ผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินทองอำนาจวาสนา ให้บูชารูปท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย สัญลักษณ์แห่งมหาเศรษฐี มั่งมีทรัพย์ เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและความร่ำรวย ที่ชาวจีนยกย่องในนาม องค์ไฉ่ซิงเอี้ยซึ่งมีบูชากันทุกบ้าน ร่ำรวยทุกคน ขับไล่ภูตผีปีศาจ วิญญาณร้ายแก้เสนียดจัญไร อัปมงคลคุณไสยต่างๆ หากผู้ใดบูชาท้าวเวสสุวรรณด้วยความเคารพศรัทธา จะประสบแต่ความโชคดี มีทรัพย์ ตลอดจนพ้นภัยจากบรรดาภูติผีปีศาจทั้งหลายตลอดกาล!!!
สอบถามรายละเอียดโทร.034-250077-9, 087-6984777, 087-1517799, 081-4424262