นับแต่วันแรกที่ถวายตัวเป็น "ศิษย์"
จวบจนถึงวันที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข ละสังขารลงนั้น
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ท่านมิเคยได้ว่างเว้น
จากการปรนนิบัติรับใช้ แม้ในยามที่พระอาจารย์ของท่าน ได้ละสังขารลงไปแล้วนั้น
"ศิษย์ผู้นี้ก็ยังคงถวายความกตัญญูกตเวที เป็นอย่างดี และเสมอมา"
"ศิษย์ผู้นี้ก็ยังคงถวายความกตัญญูกตเวที เป็นอย่างดี และเสมอมา"
ในคราวที่ หลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข เทพเจ้าแห่งวัดไผ่ล้อม มีอาการอาพาธอยู่นั้น
หลวงพี่น้ำฝน ศิษย์เอกทายาทพุทธาคม ผู้ซึ่งคอยดูแลปรนนิบัติรับใช้ อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
ท่านจะเป็นผู้ที่คอยดูแลรับใช้ และช่วยเหลือในการฉันภัตตาหาร คอยบีบ คอยนวดอยู่เสมอ
หรือแม้กระทั่ง "สรงน้ำ" ให้กับพระอาจารย์ ด้วยความรัก เคารพ ไม่ต่างไปจาก
"บุตรที่ดี ปฏิบัติต่อบุพการี ด้วยสำนึกแห่งความกตัญญู"
หลวงพี่น้ำฝน ศิษย์เอกทายาทพุทธาคม ผู้ซึ่งคอยดูแลปรนนิบัติรับใช้ อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
ท่านจะเป็นผู้ที่คอยดูแลรับใช้ และช่วยเหลือในการฉันภัตตาหาร คอยบีบ คอยนวดอยู่เสมอ
หรือแม้กระทั่ง "สรงน้ำ" ให้กับพระอาจารย์ ด้วยความรัก เคารพ ไม่ต่างไปจาก
"บุตรที่ดี ปฏิบัติต่อบุพการี ด้วยสำนึกแห่งความกตัญญู"
แม้ในปัจจุบัน หลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข จะละสังขารไปนานกว่า 7 ปีแล้ว
แต่หลวงพี่น้ำฝน "ศิษย์ผู้สำนึกในคุณ" ก็ยังคงปรนนิบัติดูแล "สังขาร"
ของท่านพระอาจารย์เป็นอย่างดีเสมอมา เพราะฉะนั้นจะสังเกตุได้ว่า
เป็นระยะเวลาหลายปีมาแล้ว ที่วัดไผ่ล้อม ดินแดนแห่งธรรม จ.นครปฐม
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม และ คณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย มักจะร่วมกันจัดพิธี
"ชำระสังขาร" หลวงพ่อพูล "ด้วยสำนึกแห่งความกตัญญู ดั่งศิษย์มีครูนั้นพึงกระทำ"
และแม้ว่ากาลเวลา จะผ่านพ้นล่วงเลยไปอีกนานสักเพียงใด
"ศิษย์เอก แห่ง หลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข" นามว่า "หลวงพี่น้ำฝน" นั้น
ท่านได้ตั้งปณิธานไว้อย่างแน่วแน่ว่า จะคอยดูแลปรนนิบัติต่อ "สังขาร" ของพระอาจารย์
ผู้ซึ่งเปรียบเสมือน "บุพการี แห่ง พุทธาคม"
"ให้ดีที่สุด เท่าที่ ศิษย์ผู้นี้จะพึงกระทำได้"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น