วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557

60 ปี กุมารสมบัติ เทพผู้บันดาลทรัพย์ แห่งวัดไผ่ล้อม


ย้อนไปเมื่อราว 60 ปีก่อน พระภิกษุผู้เจริญศีล 3 รูป ได้ออกเดินทางจากจังหวัดนครปฐม เพื่อร่วมประกอบพิธีอุปสมบท ณ จังหวัดสุพรรณบุรี และด้วยการเป็นสหธรรมิกที่ชิดใกล้ การร่วมเดินทางใกล้ไกล จึงเป็นปกติวิสัยของทั้ง 3 ท่าน หากแต่การเดินทางร่วมกันในครั้งนั้น นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ แห่ง ตำนาน “เทพมหามงคล”

ภิกษุผู้ครองธรรมที่เดินทางร่วมกันในครานั้น คือ หลวงพ่อล้ง วัดห้วยจระเข้ หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร และ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม โดยเมื่อครั้งขากลับจากกิจนิมนต์ คณะเดินทาง จาก 3 รูป กลับเพิ่มขึ้นอีก 1 ตน นั่นคือ เทพมหามงคล นามว่า “กุมารสมบัติ”

“ดั่งสวรรค์นำพาฟ้าลิขิต” กิจนิมนต์ที่จังหวัดสุพรรณบุรีในครั้งนั้น ถือเป็นจุดบรรจบ นำพาคู่บุญให้พานพบ หลวงพ่อพูล จึงได้ประสพ “กุมารทองคู่บารมี” กุมารทององค์ใหญ่ เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ ขนาดฐานกว้าง 9 นิ้ว และสูงถึง 15 นิ้ว แม้ขนาดและน้ำหนัก อาจจะแลดูคล้ายว่าเป็นปัญหาต่อการขนย้ายในยุคนั้น แต่คู่กันแล้วไม่แคล้วคลาดน้ำหนักและขนาดจึงมิใช่อุปสรรค ด้วยบุญบารมีที่สั่งสมสร้างอุทิศและด้วยจิตวิริยะที่ตั้งมั่น หลวงพ่อพูล จึงสามารถนำกุมารทองคู่บุญของท่าน กลับมาถึงจังหวัดนครปฐมได้โดยสำเร็จ


ครั้นเมื่อถึง วัดไผ่ล้อม ดินแดนแห่งธรรมจังหวัดนครปฐม ซึ่งในขณะนั้นพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพูล อัตตรักโข ดำรงตำแหน่งสมภารหนุ่มผู้สร้างความวัฒนา ท่านจึงวิเคราะห์เขตทั่วสีมา จนได้ที่ประทับบูชา และตั้งชื่อกุมารตนนี้ว่า "กุมารสมบัติ"

นับแต่นั้นจวบจนวันนี้ กาลเวลาผ่านนานกว่า 60 ปี หลวงพ่อพูล และกุมารสมบัติคู่บารมี ยังคงบันดาลโภคทรัพย์และความปรีดี ให้กับศิษย์ทั่วแดนดินถิ่นปฐพี พบประสบแต่ความโชคดี และมั่งมีเสมอมา

แม้วันนี้ พระเดชพระคุณ พระมงคลสิทธิการ หลวงพ่อพูล อัตตรักโข สุดยอดพระอมตะเถราจารย์ แห่งวัดไผ่ล้อม ได้ละสังขารสู่แดนนิพพานนานกว่า 9 ปีแล้ว "กุมารสมบัติ" ก็ยังคงเปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตของมวลหมู่ศิษย์วัดไผ่ล้อม เคียงคู่สมภารรูปใหม่ใจเมตตา ที่มีนามว่า "หลวงพี่น้ำฝน"


*************************

เรื่องโดย : เต้ มงคลพระ
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น