พระราชวรมุนี (พล อาภากโร) รองเจ้าคณะภาค 6 กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจงานคณะสงฆ์พื้นที่ จ.น่าน ซึ่งเป็นจังหวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์ ภาค 6 ตามที่ พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ สุทสฺสโน) เจ้าคณะภาค 6 มอบหมาย พบว่า ในพื้นที่ จ.น่าน มีวัดที่มีความสำคัญหลายแห่ง ขณะที่ บางแห่งมีแนวทางในการส่งเสริมให้คนเข้าวัดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะที่วัดภูเก็ต อ.ปัว จ.น่าน มีการสร้าง temple stay หรือ “เทมเปิล สเตย์” หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ คือ เป็นลักษณะของ โรงแรมธรรมะ
โดยสร้างเป็นอาคารขนาด 4 ชั้น มี 8 ห้องนอน โดยในชั้นที่ 4 จะเป็นห้องปฏิบัติธรรม ซึ่งที่น่าสนใจคือ ตัวโรงแรมนั้นจะสร้างอยู่ใต้โบสถ์ของวัดภูเก็ต เนื่องจากวัดภูเก็ตสร้างอยู่บนเนินเขา และมีการสร้างโรงแรมขึ้นบริเวณเชิงเขาด้านล่างของโบสถ์ ทำให้บริเวณลานโบสถ์ คือ ดาดฟ้าของโรงแรม และการที่เรียกว่าโรงแรมธรรมะนั้น เพราะมีการจัดห้องพักในลักษณะเดียวกับโรงแรม และผู้ที่จะเข้ามาพักจะได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมร่วมกับทางวัด รวมทั้งจะได้ศึกษาวิถีชีวิตของพระ เณร ภายในวัด ได้ทำบุญ ตักบาตร ที่สำคัญที่โรงแรมแห่งนี้ จะไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างแน่นอน
พระราชวรมุนี กล่าวต่อว่า จากการสอบถามกับทางวัด ทราบว่า โรงแรมดังกล่าวสร้างเสร็จเมื่อช่วงต้นปี 2555 โดยมีแนวคิดมาจากประเทศเกาหลี เนื่องจากพบว่า วัดที่เกาหลีมีการเปิดเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยวมาเข้าพัก ทางวัดภูเก็ตจึงนำมาประยุกต์ใช้ที่วัดโดยการสร้างเป็น เทมเปิล สเตย์ หรือโรงแรมธรรมะ โดยผู้ที่เข้าพักที่จะมาปฏิบัติธรรมจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าพัก แต่จะให้ขึ้นอยู่ที่จิตศรัทธาของแต่ละคน ขณะเดียวกันทางวัดจะจัดโปรแกรมให้ได้ศึกษาการใช้ชีวิตของพระ เณรด้วย นอกจากนี้ต่อไปทางวัดภูเก็ตยังเตรียมที่จะทำชุดขาวสำหรับปฏิบัติธรรมให้บริการไว้ภายในห้องพักเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกของผู้ที่จะเข้ามาพักแต่ไม่ได้เตรียมชุดปฏิบัติธรรมมา และหากพบว่า มีผู้สนใจเข้ามาพักจำนวนมากต่อไปทางวัดภูเก็ต ระบุว่า อาจจะมีการจัด โปรแกรมทัวร์ธรรมะ ให้กับผู้ที่เข้าพักด้วย
"โรงแรมธรรมะของวัดภูเก็ต ไม่ใช่การเปิดศาลาวัดให้คนเข้าไปนอนแล้วมาตั้งชื่อว่าเป็นโรงแรม แต่ที่วัดภูเก็ตมีการสร้างอาคารและห้องพักที่มีลักษณะเหมือนกับโรงแรมทั่วไป ประมาณโรงแรมระดับ 3 ดาว เพียงแต่ผู้ที่จะเข้ามาพักหากมาเพื่อปฏิบัติธรรมจะไม่ต้องเสียค่าที่พัก ซึ่งแนวทางนี้วัดต่างๆสามารถนำไปพัฒนาต่อได้ เพราะถือว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้คนเข้าวัด ปฏิบัติธรรมมากขึ้น ทั้งยังจะช่วยให้ผู้ที่เข้าพักได้มีโอกาสศึกษาวิถีชีวิตของผู้คนที่พักอาศัยอยู่รอบวัดด้วย" พระราชวรมุนี กล่าว
พระราชวรมุนี กล่าวต่อว่า จากการสอบถามกับทางวัด ทราบว่า โรงแรมดังกล่าวสร้างเสร็จเมื่อช่วงต้นปี 2555 โดยมีแนวคิดมาจากประเทศเกาหลี เนื่องจากพบว่า วัดที่เกาหลีมีการเปิดเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยวมาเข้าพัก ทางวัดภูเก็ตจึงนำมาประยุกต์ใช้ที่วัดโดยการสร้างเป็น เทมเปิล สเตย์ หรือโรงแรมธรรมะ โดยผู้ที่เข้าพักที่จะมาปฏิบัติธรรมจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าพัก แต่จะให้ขึ้นอยู่ที่จิตศรัทธาของแต่ละคน ขณะเดียวกันทางวัดจะจัดโปรแกรมให้ได้ศึกษาการใช้ชีวิตของพระ เณรด้วย นอกจากนี้ต่อไปทางวัดภูเก็ตยังเตรียมที่จะทำชุดขาวสำหรับปฏิบัติธรรมให้บริการไว้ภายในห้องพักเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกของผู้ที่จะเข้ามาพักแต่ไม่ได้เตรียมชุดปฏิบัติธรรมมา และหากพบว่า มีผู้สนใจเข้ามาพักจำนวนมากต่อไปทางวัดภูเก็ต ระบุว่า อาจจะมีการจัด โปรแกรมทัวร์ธรรมะ ให้กับผู้ที่เข้าพักด้วย
"โรงแรมธรรมะของวัดภูเก็ต ไม่ใช่การเปิดศาลาวัดให้คนเข้าไปนอนแล้วมาตั้งชื่อว่าเป็นโรงแรม แต่ที่วัดภูเก็ตมีการสร้างอาคารและห้องพักที่มีลักษณะเหมือนกับโรงแรมทั่วไป ประมาณโรงแรมระดับ 3 ดาว เพียงแต่ผู้ที่จะเข้ามาพักหากมาเพื่อปฏิบัติธรรมจะไม่ต้องเสียค่าที่พัก ซึ่งแนวทางนี้วัดต่างๆสามารถนำไปพัฒนาต่อได้ เพราะถือว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้คนเข้าวัด ปฏิบัติธรรมมากขึ้น ทั้งยังจะช่วยให้ผู้ที่เข้าพักได้มีโอกาสศึกษาวิถีชีวิตของผู้คนที่พักอาศัยอยู่รอบวัดด้วย" พระราชวรมุนี กล่าว
*************************
เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น