1.เพื่อสร้างเวทีให้ผู้นำศาสนาต่างๆ ในประชาคมอาเซียน ได้นำเสนอองค์ความรู้ และหลักการสำคัญเกี่ยวกับขันติธรรมทางศาสนาตามที่ปรากฏในคัมภีร์ และความเชื่อของแต่ละศาสนา
2.เพื่อให้ผู้นำศาสนาในประชาคมอาเซียนได้ร่วมกันถอดบทเรียนเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างมีขันติธรรมในประชาคมอาเซียนของแต่ละศาสนิกชนในประชาคมอาเซียน
3.เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายระหว่างผู้นำศาสนาในประชาคมอาเซียน ซึ่งจะเอื้อต่อการเรียนรู้การอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างหลากหลาย ทางด้านศาสนาสังคมและวัฒนธรรมอย่างมีขันติธรรม และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
4.เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติเพื่อผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาระดับโลกในอนาคต โดยผ่านการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างองค์กรทางพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ ทั่วภูมิภาค
ล่าสุดคณะกรรมการเตรียมการจัดงานได้จัดทำโลโก้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงาน เป็นรูป นกพิราบ ที่สื่อถึงสันติภาพ มีตราสัญลักษณ์ของศาสนา 10 ศาสนาที่มีประชาชนในอาเซียนนับคือจัดวางเป็นรูปวงกลหมุนได้และมีตราสัญลักษณ์อาเซียนคือ รวงข้าว อยู่ตรงกลาง โดยสื่อความหมายว่า หลักการทางศาสนาทั้ง 10 ศาสนานี้ โดยเฉพาะหลักขันติธรรมจะนำพาประชาคมอาเซียนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อยู่กันอย่างมีสันติภาพในภาวะที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ผู้สนใจในสามารถติดต่อสอบถาม หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 035 248098 โครงการปริญญาโทหลักสูตรสาขาสันติศึกษา มจร หรือเว็บไซต์ http://www.relepac.com/2014/en/ รวมถึงเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/pages/Religious-Leaders-for-Peace-in-ASEAN-Community/603335479779064
ล่าสุดคณะกรรมการเตรียมการจัดงานได้จัดทำโลโก้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงาน เป็นรูป นกพิราบ ที่สื่อถึงสันติภาพ มีตราสัญลักษณ์ของศาสนา 10 ศาสนาที่มีประชาชนในอาเซียนนับคือจัดวางเป็นรูปวงกลหมุนได้และมีตราสัญลักษณ์อาเซียนคือ รวงข้าว อยู่ตรงกลาง โดยสื่อความหมายว่า หลักการทางศาสนาทั้ง 10 ศาสนานี้ โดยเฉพาะหลักขันติธรรมจะนำพาประชาคมอาเซียนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อยู่กันอย่างมีสันติภาพในภาวะที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ผู้สนใจในสามารถติดต่อสอบถาม หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 035 248098 โครงการปริญญาโทหลักสูตรสาขาสันติศึกษา มจร หรือเว็บไซต์ http://www.relepac.com/2014/en/ รวมถึงเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/pages/Religious-Leaders-for-Peace-in-ASEAN-Community/603335479779064
ขณะเดียวกันที่ห้องประชุมอาคารสุชีพ ปุญญานุภาพ มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย (มมร.) ศาลายา จ.นครปฐม สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ในฐานะนายกสภา มมร. กล่าวให้โอวาทในพิธีเปิดการประชุมเตรียมความพร้อมสู่อาเซียน ว่า ในโอกาสที่มมร.เตรียมความพร้อมเพื่อการรับมือความเปลี่ยนแปลงและเผชิญหน้ากับสังคมที่มีวิถีชีวิตที่แตกต่าง นับเป็นสิ่งที่มมร.โดยเฉพาะคณะผู้บริหารจะต้องพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบและระมัดระวัง ต้องอาศัยความร่วมมือกับคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนนักศึกษาทุกท่านทุกคน ซึ่งจะต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ก้าวไปด้วยกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยการมีสติและปัญญากำกับเพื่อการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ คือ ความเป็นเลิศด้านวิชาการ สิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินไปด้วยความพร้อมเพรียงของเราทั้งหลาย
ด้าน พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธัมฺมสากิโย) รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มมร. กล่าวว่า ในปี 2558 ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน 10 ประเทศ จะรวมกันเป็นหนึ่งประชาคม ภายใต้คำขวัญที่ว่า “หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งอัตลักษณ์ หนึ่งประชาคม” โดยมีประชากรทั้งหมดกว่า 600 ล้านคน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4.6 ล้านตารางกิโลเมตร ก็คือประชากรทั้ง 10 ประเทศ จะสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันภายในภาคพื้นอาเซียนอย่างเป็นอิสระ สามารถที่จะเข้าศึกษาในสถานศึกษา และทำงานในที่ทำการภายในภาคพื้นอาเซียนได้โดยไม่มีข้อจำกัด และเมื่อสภาพของสังคมเปลี่ยนไป จึงจำเป็นที่มมร. จะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สังคมใหม่นั้นอย่างกลมกลืน และสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงนั้น ให้ดำรงอยู่ในสังคมนั้นอย่างเหมาะสมและมีความสุข
“มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาจะต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า จะปรับตัวอย่างไรเพื่อการอยู่รอดอย่างมีศักดิ์ศรี และมีเกียรติ ภายใต้สถานการณ์แข่งขันที่จะรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นการจัดประชุมนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมของบุคลากร โดยมีการกำหนดนโยบายและบทบาทที่ชัดเจน วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตร และส่งเสริมด้านวัฒนธรรมของไทยอย่างเหมาะสมภายใต้ความหลากหลายและแตกต่างทางวัฒนธรรมในกลุ่มประเทศประชาคมอาเซียน” พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าว
*************************
เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น