วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

18 ก.ค.พระราชทานเพลิงศพ "เจ้าคุณรุ่น"

ส่งมอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ พระอุโบสถกลางน้ำ ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา หนึ่งในปณิธานของ พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญา นันทภิกขุ) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี ที่ละสังขารไปแล้วถึง 6 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา

พระอุโบสถกลางน้ำแห่งนี้ ก่อสร้างเสร็จได้สมปณิธานสวยงามและสะท้อนให้เห็นภาพของสังคมไทยปัจจุบันที่แบ่งออกเป็นสีต่างๆ ภาพส่วนหนึ่งสื่อออกมาเป็นมือตบ ตีนตบ ปืน รวมทั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทางภาคใต้นั้น บุคคลหนึ่งที่เป็นแรงผลักดันที่สำคัญยิ่งนั้นก็คือ พระธรรมวิมลโมลี (รุ่น ธีรปญฺโญ ป.ธ.๙) อดีตเจ้าคณะภาค 17 อดีตหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 9 อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ โดยได้ร่วมแถลงข่าวเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2555 ด้วย

แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หลังจากนั้นไม่นาน พระธรรมวิมลโมลี ได้ล้มป่วยเข้ารับการรักษาอาการปอดติดเชื้อที่โรงพยาบาลชลประทานในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556 จากนั้นได้ย้ายไปรักษายังโรงพยาบาลศิริราช กระทั่งมรณภาพในที่สุดในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2556 โดยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิตรวมสิริอายุ 66 ปี พรรษาที่ 46

ทั้งนี้ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆ์ราช กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามได้กล่าวถึงพระธรรมวิมลโมลีในโอกาสเป็นประธานส่งมอบพระอุโบสถกลางน้ำแก่ มจร ว่า "งานพิธีส่งมอบอุโบสถกลางสระน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จะยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด ถ้าวันนี้พระธรรมวิมลโมลีผู้สืบสานมโนปณิธานสร้างอุโบสถหลังนี้จนแล้วเสร็จ มายืนอยู่ ณ จุดนี้ด้วย แต่น่าเสียดายที่ท่านต้องมาจากไปก่อนวัยอันควร ขอดวงวิญญาณของพระเดชพระคุณอาจารย์ จงสู่สุคติเถิด"

หลังจากพระธรรมวิมลโมลีมรณภาพลง คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ตลอดมา และได้กำหนดที่จะประกอบพิธีฌาปนกิจและได้รับพระราชเพลิงศพเวลา 15.00 น.ของวันที่ 18 ก.ค.นี้โดยมี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงเป็นประธาน ทั้งนี้วันที่ 15 ก.ค.คณะศิษยานุศิษย์ได้อัญเชิญโกศศพพระธรรมวิมลโมลีบำเพ็ญกุศล ณ เมรุมาศ วัดชลประทานฯ ก่อนประกอบพิธีพระราชทานเพลิง

พระธรรมวิมลโมลี มีนามเดิมว่า รุ่น นามสกุล รักษ์วงศ์ เกิดวันที่ 24 มกราคม 2490 ที่บ้านลำภายตีน ตำบลโคกชะงาย อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุงบรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2510 ณ วัดธาราสถิตย์ ตำบลโคกชะงาย อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ในปี 2512 สอบได้ นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดตรัง ปี 2523 สอบได้ ป.ธ.9 สำนักเรียนวัดราชสิทธาราม กรุงเทพมหานคร ปี 2549 สำเร็จการศึกษาศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย กทม.

ตำแหน่งทางการปกครอง ในปี 2516 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดกุฏยาราม จังหวัดตรัง ปี 2527 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ และได้ขอลาออก เมื่อปี 2532 เพื่อไปรับตำแหน่ง รองเจ้าคณะภาค 17 ปี 2551ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์สมณศักดิ์ ในปี 2527 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ "พระเมธีวราภรณ์" ปี 2539ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ "พระราชวิสุทธิโมลี" ปี 2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ “พระเทพปริยัติเมธี” ปี2552ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ "พระธรรมวิมลโมลี"

"พฤกษภผกาสร อีกกุญชรอัดปลดปลง โททนเสน่ห์คง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรี สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา"


*************************

เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น