วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

"เนอสเซอรี่กุมารทอง" ณ วัดไผ่ล้อม อันซีนอินไทยแลนด์!!


กุมารทอง ปัจจุบันนิยมสร้างเป็นรูปเด็ก ลักษณะเป็นเด็กไว้จุก นุ่งโจงกระเบนอย่างโบราณ กลายเป็นเครื่องรางของขลัง มีคติความ เชื่อกันว่ากุมารทอง เสมือนมีวิญญาณเด็กอยู่ในรูปกุมารนั้น ผู้บูชาต้องเลี้ยงดูเหมือนลูกของตน ต้องให้ข้าวน้ำเซ่นสรวงและต้องเรียกให้กินข้าวด้วย กล่าวกันว่า หากปฏิบัติดูแลดีกุมารทองก็จะช่วยค้ำคูณ อาทิ ช่วยคุ้มครองป้องกันเจ้าของและครอบครัวจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ช่วยให้ทำมาค้าขึ้น ไปจนถึงเตือนภัยล่วงหน้าอีกด้วย และจะคอยติดตามเฝ้าระวังบ้านเรือนจากโจรผู้ร้ายและศัตรูไม่ให้มากล้ำกราย ปัจจุบันผู้บูชานิยมไหว้ด้วยน้ำแดง

นอกจากนี้ยังมีคติความเชื่อด้วยว่า หากไม่อยากเลี้ยงกุมารทองไว้อีกต่อไป กุมารทองที่ได้มาจากที่ไหนต้องเอาไปปล่อยหรือคืนไว้กับที่นั่นจะดีที่สุด เรียกว่า กลับคืนสู่บ้านเก่า แต่ก่อนเอาไปคืนให้จุดธูปกลางแจ้ง บอกกุมารทองที่ปล่อยให้เขาได้รับรู้ด้วยพร้อมบอกเหตุผลที่เราจะต้องเอาเขาไปปล่อยและทำบุญให้เขาไปด้วย และหากเมื่อเอาเขาไปปล่อยแล้วก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศให้เขาเรื่อยๆ เช่นกัน เพราะหากเขามีบุญพอจะไปเกิดเขาจะไปเกิดภพภูมิอื่นทันที ถือว่าเราเคยเลี้ยงเขามา ควรจะทำบุญส่งท้ายให้ไปด้วย

สถานที่ปล่อยกุมารทองนั้น ในอดีตนิยมไปฝังในป่าช้าโดยขุดหลุมโตพอประมาณ วางลงไป โปรยดอกไม้ของหอม ดอกไม้จะเป็นดอกอะไรก็ได้ แล้วก็พูดว่าสิ่งนี้คือซากของลูกที่ไม่ใช้แล้ว เหมือนซากศพที่ตายแล้ว สมควรที่จะขจัดซากนี้ให้สลายกลายไปเป็นซากดิน พ่อและแม่ก็จะกลบร่างนี้เพื่อให้ลูกไปเกิดในภพภูมิที่ดี นอกจากแล้วยังมีอีกวิธีหนึ่ง คือ เราฝากแม่พระคงคาไว้ เวลาจะนำไปปล่อยให้จัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ให้เรียบร้อย มีดอกไม้ ธูปเทียน เป็นต้น เหมือนเราลอยอัฐิลอยอังคาร


ปัจจุบันนี้ป่าช้าไม่มีดินให้ขุดฝังศพเช่นในอดีต ขณะเดียวกันการไปลอยน้ำก็ไม่เป็นที่นิยม แต่กลับไปปล่อยไว้ที่วัด โดยเฉพาะที่ วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม มี “กุมารทอง” จำนวนมากที่ญาติโยมพุทธศาสนิกชนนำมาถวายพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข ด้วยเหตุผลหลายประการ ส่งผลให้ที่วัดแน่นขนัดไปด้วย “กุมารทอง” มาจากสถานที่ต่างๆ กลายเป็นเนอสเซอรี่ขนาดใหญ่ในปัจจุบัน

สำหรับความเป็นมา “กุมารทอง หลวงพ่อพูล” นั้น มีสาเหตุสำคัญมาจาก “กุมารทองสมบัติ” ซึ่งตั้งบูชาอยู่ในกุฏิของท่าน ตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม เล่ากันว่าที่ผ่านมาท่านเดินทางไปเป็นพระคู่สวดที่จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมกับ หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร และพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อล้ง วัดห้วยจระเข้ ทั้ง ๓ องค์เดินทางร่วมกันไปตลอดและการไปสุพรรณบุรีครานั้น มีคนถวาย “กุมารทอง” กลับมาด้วย มีขนาดใหญ่ เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ ฐาน ๙ นิ้ว สูง ๑๕ นิ้ว หลวงพ่อนำมาที่กุฏิตั้งชื่อ “กุมารทองสมบัติ” จากนั้นมีเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ มีจำนวนมากมายดังที่เห็นเกือบพันองค์

ส่งผลให้ญาติโยมจากทั่วสารทิศแห่แหนมากราบไหว้ขอพร และต่างสัมฤทธิ์ผลเลื่องลือถึงประสบการณ์ ให้โชคลาภ ค้าขายดีมีกำไร สำเร็จสมปรารถนามาโดยตลอด ที่สำคัญ “กุมารทองสมบัติ” ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก จวบจนกระแสความศรัทธาขจรขจายไปทั่วประเทศ และแพร่หลายไปยังต่างประเทศอีกด้วย สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ คือ ของเล่นที่คนนำมาแก้บนโดยเฉพาะรถของเล่นรวมทั้งสร้อยคอทองคำแท้

พิธีเปลี่ยนผ้าครองสังขารหลวงพ่อพูล

พระมงคลสิทธิการ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข พระอมตะเถราจารย์แห่งวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่มีประชาชนให้ความเคารพศรัทธาทั่วประเทศ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ด้วยความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เสมอต้นเสมอปลาย ให้ความเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ทุกชั้นวรรณะ ท่านสร้างคุณประโยชน์ไว้มากมายในบวรพุทธศาสนา เป็นที่ประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรม ถาวรวัตถุทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจากความตั้งใจ จรรโลงไว้เพื่อคุณงามความดี มีหลักยึดพระธรรมในการรังสรรค์ด้วยความเสียสละเพื่อสังคมส่วนรวมอย่างแท้จริง

เมื่อท่านละสังขาร สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย คงสภาพเดิมทุกประการ พุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศต่างแห่แหนเดินทางมากราบสักการะสังขารของท่านมิขาดสาย ทำให้ทุกวันนี้บนศาลาการเปรียญที่ประดิษฐานสังขารของท่าน มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมากราบสังขารหลวงพ่อแน่นขนัดทุกวัน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต เพื่อความเป็นสิริมงคลในหน้าที่การงาน ค้าขายดีมีกำไรไม่เจ็บไม่จน กินอิ่มนอนอุ่น ตลอดไป

อย่างไรก็ตามในวันเสาร์ที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จะได้เปิดโอกาสให้ญาติโยมศิษยานุศิษย์ได้สัมผัสหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด โดยจัดให้มีพิธีถวายสักการะสรีระพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล สวดพระพุทธมนต์ ประกอบพิธีสรงน้ำเช็ดตัวเปลี่ยนผ้าครองที่สังขารหลวงพ่อพูล ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น.เป็นต้นไป ณ ศาลาการเปรียญวัดไผ่ล้อม

สำหรับพิธีลงกระหม่อมโดยในระหว่างเวลาดังกล่าวนี้ หลวงพี่น้ำฝน ท่านเปิดโอกาสให้ญาติโยมพุทธศาสนิกชนเข้ากราบสักการะสังขารหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด ด้วยการก้มกราบน้อมศีรษะจรดแตะไปที่ปลายเท้าหลวงพ่อเพื่อความเป็นสิริมงคล กับครั้งหนึ่งในชีวิต


แจกฟรี! พระผงหลวงปู่ทวด-หลวงพ่อพูล

สวดนพเคราะห์ข้ามปี เป็นบุญประเพณีในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของ วัดไผ่ล้อม โดยได้จัดติดต่อกันมากว่า ๑๐ ปี แล้ว โดยในปีนี้จัดในเย็น วันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๙ น. ณ โบราณสถาน วัดพระเมรุ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พร้อมกับพิธีกรรม ร่วมพิธียิ่งใหญ่ ขอขมากรรม ถอนคำสาบาน ถอนคำสาปแช่ง

พิธีขอขมากรรม พุทธประเพณีที่ถือปฏิบัติมาแต่ครั้งโบราณกาล ด้วยการขอขมาต่อเพื่อนมนุษย์ สรรพสัตว์ทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวร งดโทษ ไม่โกรธเคือง ไม่จองเวรต่อกัน การขอขมากรรมมีหลักฐานปรากฏในหมู่สงฆ์ที่ได้กระทำล่วงเกิน ด้วย กาย วาจา ใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เจตนาและไม่เจตนา ขอขมาต่อการกระทำของตนที่ได้ทำผิดพลาดไปแล้ว จึงจะถูกรับกลับเข้าหมู่สงฆ์เช่นเดิม แสดงให้เห็นถึงการขอขมากรรม และให้อโหสิกรรม ย่อมนำมาซึ่งความสุขใจอย่างแท้จริง

กำหนดการเวลา ๑๘.๐๙ น. บัณฑิต อ่านโองการเทพยดา พร้อมบูชาถวาย เครื่องสังเวย ต่อเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย หลวงพี่น้ำฝน นำกล่าว ขอขมากรรม ถอนคำสาบาน ถอนคำสาปแช่ง จากนั้นหลวงพี่น้ำฝนพร้อมคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม สวดถอนกรรม ถอนคำสาบาน ถอนคำสาปแช่ง

เวลา ๒๒.๐๐ น. พิธีสวดนพเคราะห์ เสริมบารมี ไปจนถึง เวลา ๒๔.๐๐ น. หลวงพี่น้ำฝนประพรมน้ำพระพุทธมนต์เคานท์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่า รับพรปีใหม่ โชคดี โชคดี โชคดี เป็นเสร็จพิธี ผู้ที่ร่วมพิธีจะได้รับมอบมงคลวัตถุ หลวงปู่ทวด หลวงพ่อพูล เนื้อผงพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ทุกท่านที่เข้าร่วมพิธีทุกท่านฟรี 

สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.๐๘-๗๗๕๖-๗๕๕๕ และ ๐๘-๗๑๕๑-๗๗๙๙


*************************

เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น