สิ้น"พระเทพวิสุทธิโมลี" ศิษย์สาย"หลวงพ่อโบ้ย"
พระเทพวิสุทธิโมลี (อุทัย อุทโย)
เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่ง ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชน
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
และรองเจ้าคณะภาค 3
มีนามเดิมว่า อุทัย สุดธรรมมา เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2486 ณ บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่
9 ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี โยมบิดา-มารดาชื่อ
นายพิศ และ นางทอง สุดธรรมมา
ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม
ในช่วงวัยเยาว์จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนประชาบาล วัดมะนาว จ.สุพรรณบุรี
เมื่ออายุ 13 ปี ได้บรรพชา เมื่อวันที่
5 พฤษภาคม 2499 ณ วัดมะนาว
ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยมีพระครูเกศีคุณาธร วัดมะนาว
เป็นพระอุปัชฌาย์
มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก
ตามลำดับ จากสำนักเรียนวัดบางขุนเทียน และสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค จากสำนักเรียนเดียวกัน
ครั้นอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์
จึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2507 ณ พัทธสีมาวัดมะนาว ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มีพระครูเกศีคุณาธร
วัดมะนาว เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสังฆรักษ์สัมฤทธิ์
วัดอู่ทอง ต.โครกคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูวาทีธรรมคุณ วัดลาดคา
ต.โครกคราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังอุปสมบท
ท่านได้ตั้งใจศึกษาอย่างมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม
ได้ขอย้ายมาอยู่ที่วัดพระพิเรนทร์ พ.ศ.2518 สามารถสอบได้เปรียญธรรม
9 ประโยค จากสำนักเรียนวัดพระพิเรนทร์
พ.ศ.2521 ได้รับเมตตาจาก
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม
มอบทุนการศึกษาจากสภาการศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ในสาขารัฐประศาสน ศาสตร์ มหาวิทยาลัยปัญจาบ ประเทศอินเดีย
ครั้นเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ได้กลับมาสนองงานคณะสงฆ์
ท่านได้สร้างผลงานเป็นคุณูปการมากมายหลากหลายด้าน ทั้งด้านงานปกครองคณะสงฆ์
การศึกษาพระปริยัติธรรม การสาธารณ ประโยชน์ ด้านการพัฒนา และอื่นๆ อีกมากมาย
ผลงานด้านการศึกษาสงฆ์ เป็นกรรมการตรวจบาลีสนามหลวง
เป็นผู้ให้การอุปถัมภ์โรงเรียนวัดพระพิเรนทร์ ได้ตั้งทุนการศึกษาระดับประถมศึกษา
มัธยมศึกษาและอุดมศึกษา มอบทุนในระดับประถมศึกษา
โรงเรียนวัดพระพิเรนทร์และอีกหลายโรงเรียน
ด้านสาธารณูปการ
ได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์สงเคราะห์เผาศพพระภิกษุสามเณรที่ไม่มีญาติจากโรงพยาบาลสงฆ์
และศพไม่มีญาติจากโรงพยาบาลอื่นๆ ตลอดจนศพไร้ญาติทั่วไป
รวมทั้งจัดทอดกฐินสามัคคีตามวัดในชนบททุกปี
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2532 เป็นเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์
พ.ศ.2534 เป็นเจ้าคณะแขวงป้อมปราบฯ เขต 2 พ.ศ.2535 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2540 เป็นเจ้าคณะเขตป้อมปราบฯ-ปทุมวัน
พ.ศ.2550 เป็นรองเจ้าคณะภาค 3
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2541 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ
ที่พระปิฎกโกศล
พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช
ที่พระราชปริยัติเวที
ล่าสุด พ.ศ.2553 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ
ที่พระเทพวิสุทธิโมลี
พระเทพวิสุทธิโมลี ยังเป็นพระเกจิอาจารย์
แม้จะมิได้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ
แต่ท่านมีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ
ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิเรืองวิทยาคมจากบรรดาคณะศิษยานุศิษย์
เนื่องด้วยท่านเคยบวชเรียนที่วัดมะนาว จ.สุพรรณบุรี
ของหลวงพ่อโบ้ย พระเกจิดังแห่งเมืองสุพรรณบุรี ทำให้ท่านได้สืบสานวิชาเล่าเรียน
พระครูเกศีคุณาธร(หลวงพ่อโบ้ย) ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์
เกียรติคุณด้านมงคลปูชนียวัตถุที่สร้างชื่อให้กับพระเทพ
วิสุทธิโมลีคือ วัตถุมงคล รุ่นพระเทพนฤมิต
เป็นวัตถุมงคลที่มีการจัดสร้างเพียงรุ่นเดียวของวัดพระพิเรนทร์
เพื่อนำปัจจัยจากการเช่าบูชา
สมทบทุนก่อสร้างอาคารกุฏิสงฆ์และอาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรม
เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา
พระเทพวิสุทธิโมลี มรณภาพอย่างสงบที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ด้วยอาการไตวาย
ปอดติดเชื้อ สิริอายุ 68 ปี 48 พรรษา
หลังจากเข้ารักษาอาการอาพาธ ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.เป็นต้นมา
ทั้งนี้ หลังจากที่พระเทพวิสุทธิโมลี
เดินทางกลับมาจากการจัดสอบธรรมสนามหลวงที่ประเทศนิวซีแลนด์ เกิดอาการอ่อนเพลีย
เบื่ออาหาร จึงเข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่ ร.พ.บำรุงราษฎร์
ต้องรักษาอาการอาพาธในห้องไอซียูมาโดยตลอด จนกระทั่งมรณภาพในที่สุด ทั้งนี้วัดพระพิเรนทร์ได้จัดพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ
จากนั้นได้เก็บศพไว้เป็นเวลา 100 วัน
ก่อนจะขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น