วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

ความจริง!! กรณีตรวจฉี่พระ

โครงการตรวจสารเสพติด ‘ภิกษุ สามเณร’ จังหวัดนครปฐม
กิจกรรมดีๆช่วงเข้าพรรษา เพื่อบำบัดรักษา เพื่อความโปร่งใส ในหมู่คณะสงฆ์

ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการพระวินยาธิการ คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม ได้มีการประชุมปรึกษาหารือ เพื่อหาข้อสรุป กับเหตุการณ์ผลกระทบด้านบวกและลบที่มีต่อความศรัทธาในพุทธศาสนิกชนและคณะสงฆ์ในจังหวัดนครปฐมโดยองค์รวมทั้งหมด และเพื่อเป็นการค้นหากิจกรรม จรรโลงวิถีปฏิบัติ ในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงาม สร้างความเคารพศรัทธา ที่ญาติโยมมีต่อพระพุทธศาสนา ในจังหวัดนครปฐม อย่างมั่นคงเข้มแข็งตลอดไป

ซึ่งในปัจจุบันต้องยอมรับความศรัทธาถดถอยไปตามกาลเวลา ด้วยมูลเหตุสำคัญ กล่าวคือเนื่องจากการนำเสนอข่าวสาร จากสื่อสารมวลชนในด้านลบ ที่ถูกนำเผยแพร่สู่สาธารณชนอย่างต่อเนื่องนั้น ส่งผลให้คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐมตื่นตัว ที่จะจัดทำโครงการดีๆมีสาระต่อสังคมส่วนรวม

ฉะนั้น คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม จึงได้ข้อสรุปในที่ประชุม ลงมติให้ความร่วมมือจัดทำโครงการ นครปฐมวัดร่มเย็น เพื่อพัฒนา และดูแลคณะสงฆ์ตามวัดวาอารามต่างๆในจังหวัดนครปฐม โดยเน้นร่วมกันรังสรรค์ เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีงามของพระสงฆ์ ต่อสาธารณชน ด้วยความสะอาดและบริสุทธิ์จริงใจ

จุดประกาย จัดทำ “โครงการตรวจหาสารเสพติด ตรวจปัสสาวะ พระภิกษุ สามเณร ตามวัดวาอารามต่างๆ ทุกอำเภอในจังหวัดนครปฐม” โดยเฉพาะในช่วงเข้าพรรษา ในปี พ.ศ.2556 นี้ ซึ่งโครงการดังกล่าว นับเป็นดำริร่วมกัน ของหลายหน่วยงานต่างๆ และที่สำคัญเป็นการหนุนนำสร้างความโปร่งใสให้บังเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีพระเดชพระคุณ พระราชรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เป็นผู้ดำริริเริ่มโครงการฯ ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ

พร้อมทั้งทีมพันธมิตร จาก 5 หน่วยงานสำคัญของทางราชการ คือ 

1.สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม 
2.ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมโดยนายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ และนายอำเภอทุกอำเภอในจังหวัดนครปฐม 
3.พระวินยาธิการทุกรูปในจังหวัดนครปฐม 
4.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม 
5.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจรรโลงรังสรรค์ ปกป้องปกปักรักษาบวรพระพุทธศาสนา เพื่อให้เกิดความโปรงใสในทุกมิติรอบด้าน และโดยเฉพาะในฐานะที่พระภิกษุสามเณรทุกรูป คือ บุคลากรผู้ทำหน้าที่ เผยแผ่พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมต้องประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีต่อพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ปราศจากมลทินใดๆมาเคลือบแฝงรวมทั้งเพื่อสร้างกระแสให้ชุมชนมีความร่วมมือในการรณรงค์และดำเนินการให้วัดทุกวัดปลอดสิ่งเสพติด และอบายมุข

ฉะนั้นเพื่อความเป็นตัวอย่างและแบบอย่างที่ดี ที่ควรรักษาไว้ ซึ่งคุณงามความดี มีความเคร่งครัด ในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และซื่อตรงต่อพระธรรมวินัย จึงนับเป็นโอกาสอันดี โดยคณะสงฆ์ถือโอกาสใช้วันเวลา ในห้วงเข้าพรรษา ดำเนินการจัดกิจกรรมโครงการดังกล่าวนี้ โดยเริ่มต้นที่อำเภอเมืองนครปฐม เป็นอำเภอแรก ในการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เพื่อทำการบำบัดรักษาอย่างจริงจัง และเมื่อตรวจพบก็จะได้ช่วยกันแก้ไข เพื่อให้เกิดการบูรณาการ และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมส่วนรวมอย่างแท้จริง

คณะทำงานทั้งหมดได้ออกเดินทางไปตรวจปัสสาวะพระภิกษุ สามเณรเพื่อหาสารเสพติด เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป โดยเดินทางไปตามวัดต่างๆในแต่ละอำเภอ ทั้ง 7 อำเภอ เฉกเช่น อำเภอเมืองนครปฐม อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอพุทธมณฑล อำเภอดอนตูม อำเภอบางเลน และอำเภอกำแพงแสน

ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่ทุกคน พระสงฆ์ทุกรูป มุ่งมั่นทำงานด้วยความจริงใจ ทำงานด้วยความคล่องตัว มีความสะดวกสบาย ไม่เจออุปสรรคปัญหาใดๆ ทุกวัดให้ความร่วมมือ ยินดีให้ตรวจอย่างดี ไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนใหญ่พระทุกวัด ร่วมมือ เตรียมความพร้อม ชื่นชมชื่นชอบ อยากให้มาตรวจเป็นอย่างยิ่ง การตรวจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย “สงบ นุ่มนวล สุภาพ อ่อนโยน” ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเมื่อเจอวัดไหนพบพระสงฆ์สามเณร ที่ติดยาเสพติด และมีความปรารถนาอยู่ต่อ ไม่ลาสิกขา ทางวัดและเจ้าหน้าที่ ก็จะช่วยกันบำบัด ให้คำแนะนำที่ถูกต้อง และจะมีการตรวจปัสสาวะซ้ำอีกทุก 15 วัน เพื่อให้เลิกได้หายขาด ในโอกาสต่อไป

ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ นับเป็นการ คืนคนดีสู่สังคมอีกครั้ง ด้วยความปรารถนาดีด้วยความจริงใจจากทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน ที่พร้อมให้ความร่วมมืออย่างใจถึงใจ

ประสบผลสัมฤทธิ์ ในด้านการพัฒนาวัดให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อบอุ่น สังคมอยู่เย็นเป็นสุข รวมทั้งให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้วัดเป็นสถานที่เผยแผ่หลักธรรมและ ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหายาเสพติด โดยทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องร่วมกันดำเนินการให้ประสบผลสำเร็จโดยเร็ว

*************************

เรื่องโดย : น้าวี ศรีสุรา
เรียบเรียงโดย : โอมเพี้ยงเชี่ยงชุน





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น