วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ศีลธรรมชี้นำทา

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "เมื่อสังคมเป็นระเบียบ คนโง่เขลาเพียงคนเดียวย่อมไม่อาจทำให้วุ่นวายได้ 
และเมื่อสังคมยุ่งเหยิง นักปราชญ์เพียงหนึ่งเดียว ก็ไม่อาจสร้างระเบียบได้" เป็นเครื่องยืนยันว่า
หากใครหวังความสงบก็ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับผู้คน ควรพยายามนำตัวเองหลีกออกจากสังคมอันแสนจะวุ่นวายนี้ 

แต่เมื่อเรายังมีความจำเป็น ต้องใช้ชีวิตพึ่งพากันและกันอยู่ ต้องมีสังคมยังไม่อาจหลีกหนีหลบเลี่ยงได้
ก็จำเป็นต้องมีหลักปฏิบัติบางประการที่จะช่วยสร้างความสงบให้เกิดขึ้น นั่นคือหลัก "ศีล" และ "ธรรม"




"ศีล" เป็นข้อปฏิบัติที่งดเว้นจากการเบียดเบียนตนเอง และ ผู้อื่นให้เดือดร้อน 
ในมหาปรินิพพานสูตรได้กล่าวถึงโทษของการไม่รักษาศีลว่าจะทำให้เสียทรัพย์ ทำให้มีชื่อเสียงไม่ดี 
ขี้ขลาด กลัวตาย แม้แต่ตายไปก็จะไปตกในอบายภูมินรก เป็นต้น 

"ธรรม" คือความดีที่ใช้รักษาศีล เช่น มีเมตตา ช่วยรักษาศีลข้อห้ามฆ่าสัตว์ เป็นต้น 
และเมื่อผู้รักษาศีลก็จะประสบความสุข มีเงินทอง มีชื่อเสียงดี มีความกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวตาย 
เพราะเชื่อมั่นความดีของตน เมื่อตายก็ไปสวรรค์ 

ฉะนั้น เมื่อเรางดเว้นจากความชั่วทั้งปวงด้วยการรักษาศีลไว้เป็นเบื้องต้น 
ขณะเดียวกัน เราก็ได้ทำความดีคือมีเมตตา ไปพร้อมกัน และไม่ว่าชีวิตจะเผชิญหน้ากับสิ่งใด
ก็ยังคงยึดมั่นต่อหลักการนี้ให้ช่วยชี้นำหาทางออก 

ไม่นานสังคมก็จะเรียบง่ายสุขสงบ เพราะมี "ศีลธรรม" ชี้นำทาง

มีหลายครั้งที่ทางทีมงานพระวิทยากรได้ไปอบรมผู้เคยผิดพลาดในชีวิตติดยาเสพติด 
เขาเหล่านั้นพอได้รับโอกาสเข้าร่วมอบรมก็ได้เริ่มซึมซับความดีทีละเล็กละน้อย จากการรักษาศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิ 
หากเขายังรักษาศีลและธรรมะ หรือความดีนี้ไว้ได้ ก็เป็นวิธีช่วยให้เขาหลีกหนีจากความไม่ดีทั้งปวงได้เช่นกัน 




"ก็เหมือนเราเคยนั่งรถบัส แต่ก่อนต้องยืน เดี๋ยวนี้นั่งสบาย เย็นแอร์อีกต่างหาก ไม่ลำบากเหมือนก่อน 
ทีนี้พอจะให้กลับไปนั่งรถบัสที่ไม่มีแอร์ ก็รู้สึกว่าไม่อยากนั่งอีก นี่เองเมื่อเราดีขึ้นก็ไม่อยากกลับไปลำบากอีก 
ก็ต้องรักษาความดีนั้นไว้ อ้อ... แต่ความคิดนี้คงใช้ไม่ได้กับประเทศอินเดียนะ" พระอาจารย์เปรียบเทียบให้ผู้เข้าอบรมฟัง




"ทำไมละครับ" โยมถาม "เพราะประเทศอินเดียมีคนเยอะมาก แต่รถบัสสำหรับเดินทางมีน้อย 
เวลาคนจะขึ้นทีก็ต้องอัดให้เต็มที่ จึงต้องนั่งบนหลังคาด้วย ขอเพียงให้ได้ไปก็พอ แต่โยมรู้ไหม
ค่ารถข้างในรถบัสกับข้างนอกรถบัส อันไหนแพงกว่ากัน" พระอาจารย์ถาม 

โยมนิ่งคิดแล้วพูดขึ้นโดยเปรียบเทียบกับรถบ้านเรา "ก็ต้องข้างในซิครับ ปลอดภัยกว่าข้างนอก"

"ผิดแล้วโยม ข้างนอกรถสิแพงกว่า เพราะทุกคนอยากนั่งข้างนอกมากกว่า ลมก็เย็นสบาย แต่ข้างในแออัด
แถมกลิ่นตัวใครไม่รู้ คิดดูว่าต้องทนดมกันเป็นวันๆ ข้างนอกจึงแพงกว่า" พระอาจารย์พูดขึ้นขณะที่ทุกคนนึกภาพตาม 

"ช่างน่าดีใจที่เกิดเป็นคนไทยและอยู่เมืองไทยจริงๆ" โยมพูดขึ้น 

แต่ที่จริงแล้วไม่ว่าที่ไหนๆ ถ้ายังมีศีลและธรรมอยู่ ที่นั้นก็น่าอยู่ด้วยกันทั้งนั้น



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น