เจริญพรคุณโยมผู้อ่านทุกท่าน สัปดาห์นี้นำเสนอปัญหากรณี “ภรรยาท้อง สามีทิ้ง” เที่ยวเตร่ คบชู้ นอกใจ ไม่มีเยื้อใย เครียด กังวนใจ มืดรอบด้าน โทร.เข้ามาหาแสงสว่าง เล่าว่า แต่งงานกับแฟน คบหาดูใจหลายปี สุดท้ายแต่งงาน หลังจากนั้นตั้งครรภ์ ผ่านมา 7 เดือน มีข่าวร้าย สามีไปมีกิ๊ก!!
สำหรับกรณีของโยม มีหลายคู่ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ และการจะเรียกสามีกลับมา ต้องอย่าไปชวนทะเลาะ เบื้องต้นควรพูดคุย แนะนำคำพูดที่เป็นมงคล อาตมาอยากให้ยึดหลักการดำเนินชีวิต เฉกเช่น “การเคี้ยวอาหาร ถ้าลิ้นกับฟันทำงานไม่ประสานกัน ก็มีหวังขบลิ้นตนเองต้องเจ็บปวดจนน้ำตาร่วง”
การครองเรือน ถ้าสามีภรรยาไม่สงเคราะห์กัน ไม่มีความเข้าใจกัน นอกจากจะไม่ก้าวหน้าแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็มีหวังช้ำใจน้ำตาร่วงได้เหมือนกัน สามี คือ ผู้เลี้ยง ภรรยา คือ ผู้ควรเลี้ยง ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสามี ก็เพราะเลี้ยงดูภรรยา ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าภรรยา ก็เพราะทำตัวเป็นคนควรเลี้ยง การจะดูว่าใครเป็นสามีภรรยาชนิดไหน ต้องดูหลังแต่งงาน เริ่มที่ ระยะแต่ง คือก่อนเป็นสามีภรรยากัน ต่างคนต่างแต่ง ทั้งแต่งตัว แต่งท่าทาง อวดคุณสมบัติให้อีกฝ่ายหนึ่งเห็น ...จากนั้นมา ระยะงาน คือหลังจากเป็นสามีภรรยากันแล้ว ต่างคนต่างต้องทำงานตามหน้าที่ ใครมีข้อดีข้อเสีย มีความรู้ความสามารถ มีความประพฤติอย่างไรก็จะปรากฏชัดออกมา
พื้นฐานที่จะทำให้สามีภรรยาครองชีวิตยืนยาว และมีความสุข คือคู่สามีภรรยา ต้องมีศรัทธาต่อกัน มีเป้าหมายเหมือนกัน มีความประพฤติดีมีศีลธรรมจรรยา กิริยามารยาทดี ไม่เห็นแก่ตัว ใจกว้างไม่ดื้อด้าน เห็นอกเห็นใจ และต้องพูดกันรู้เรื่อง อาตมาแนะวิธีทำให้ความรักยั่งยืน การเป็นสามีภรรยา เป็นเรื่องที่จะว่ายากก็เหมือนง่าย ครั้นจะว่าง่ายก็เหมือนยาก เพราะเพียงเราตั้งคำถามว่า ทำอย่างไรสามีภรรยาจึงจะมีความรักยั่งยืนราบรื่น
สำหรับกรณีของโยม มีหลายคู่ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ และการจะเรียกสามีกลับมา ต้องอย่าไปชวนทะเลาะ เบื้องต้นควรพูดคุย แนะนำคำพูดที่เป็นมงคล อาตมาอยากให้ยึดหลักการดำเนินชีวิต เฉกเช่น “การเคี้ยวอาหาร ถ้าลิ้นกับฟันทำงานไม่ประสานกัน ก็มีหวังขบลิ้นตนเองต้องเจ็บปวดจนน้ำตาร่วง”
การครองเรือน ถ้าสามีภรรยาไม่สงเคราะห์กัน ไม่มีความเข้าใจกัน นอกจากจะไม่ก้าวหน้าแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็มีหวังช้ำใจน้ำตาร่วงได้เหมือนกัน สามี คือ ผู้เลี้ยง ภรรยา คือ ผู้ควรเลี้ยง ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสามี ก็เพราะเลี้ยงดูภรรยา ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าภรรยา ก็เพราะทำตัวเป็นคนควรเลี้ยง การจะดูว่าใครเป็นสามีภรรยาชนิดไหน ต้องดูหลังแต่งงาน เริ่มที่ ระยะแต่ง คือก่อนเป็นสามีภรรยากัน ต่างคนต่างแต่ง ทั้งแต่งตัว แต่งท่าทาง อวดคุณสมบัติให้อีกฝ่ายหนึ่งเห็น ...จากนั้นมา ระยะงาน คือหลังจากเป็นสามีภรรยากันแล้ว ต่างคนต่างต้องทำงานตามหน้าที่ ใครมีข้อดีข้อเสีย มีความรู้ความสามารถ มีความประพฤติอย่างไรก็จะปรากฏชัดออกมา
พื้นฐานที่จะทำให้สามีภรรยาครองชีวิตยืนยาว และมีความสุข คือคู่สามีภรรยา ต้องมีศรัทธาต่อกัน มีเป้าหมายเหมือนกัน มีความประพฤติดีมีศีลธรรมจรรยา กิริยามารยาทดี ไม่เห็นแก่ตัว ใจกว้างไม่ดื้อด้าน เห็นอกเห็นใจ และต้องพูดกันรู้เรื่อง อาตมาแนะวิธีทำให้ความรักยั่งยืน การเป็นสามีภรรยา เป็นเรื่องที่จะว่ายากก็เหมือนง่าย ครั้นจะว่าง่ายก็เหมือนยาก เพราะเพียงเราตั้งคำถามว่า ทำอย่างไรสามีภรรยาจึงจะมีความรักยั่งยืนราบรื่น
หัวใจสำคัญต้องสงเคราะห์กัน มีน้ำใจ รู้จักการให้ แบ่งปัน ถ้ารักที่จะอยู่ด้วยกัน ต้องปันกันกิน ปันกันใช้ หามาได้ควรรวมกันไว้เป็นกองกลาง แล้วจึงแบ่งกันใช้ หากไม่เอามารวมกัน อาจเกิดการระแวงกันได้ ที่ใดที่ปราศจากการให้ ที่นั่นย่อมแห้งแล้ง เหมือนทะเลทราย การปันกันนี้รวมทั้งการปันทุกข์กันในครอบครัวด้วย เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีความทุกข์ มีปัญหา ควรนำมาปรึกษา อีกฝ่ายต้องรับรู้จักรับฟังและปลุกปลอบให้กำลังใจ
ควรพูดกันด้วยวาจาไพเราะ แม้การตักเตือนกัน ต้องระมัดระวังคำพูด ถ้าถือเป็นกันเองมากไป อาจทำให้ครอบครัวไม่สงบ ก่อนแต่งงานเคยพูดไพเราะอย่างไร หลังแต่งงานก็พูดให้เพราะอย่างนั้น ควรฝึกฝนตนให้เป็นประโยชน์ คือมีความรู้ความสามารถ แล้วนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่นั้นมาช่วยเหลือกัน ประพฤติตนเป็นประโยชน์ต่อกันในทุกด้าน เมื่อรู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี ควรหรือไม่ควร ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง
สามีภรรยาเมื่อทะเลาะกัน มักจะโยนความผิดให้อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งแท้จริงแล้วย่อมมีความผิดด้วยกันทั้งคู่ อย่างน้อยก็ผิดที่ไม่หาวิธีที่เหมาะสมแนะนำตักเตือนกัน ปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งทำความผิด ควรวางตัวให้เหมาะสม เป็นพ่อบ้านก็ทำตัวให้สมกับเป็นพ่อบ้าน เป็นแม่บ้านก็ทำตัวให้สมกับเป็นแม่บ้าน วางตัวให้เหมาะสมกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายทั้งในบ้านและนอกบ้าน สามีภรรยาควรประพฤติ ปฏิบัติให้ดี ต้องฝึกสมาธิให้ใจผ่องใสเป็นปกติ เพราะคนที่ใจผ่องใส จะรู้ว่าในภาวะเช่นนั้น ควรจะวางตนอย่างไร ไม่ระเริงจนวางตนไม่เหมาะสม
สามีภรรยาควรยึดหลักคำพูดที่ไพเราะ เพื่ออุดข้อบกพร่อง จะได้เป็นคนมีประโยชน์ ทำใจให้ผ่องใส จะได้เกิดปัญญา วางตัวได้เหมาะสมกับที่ตัวเป็น หน้าที่ของสามี ต้องยกย่องให้เกียรติภรรยา ไม่ปิดบัง หากทำดี ก็ชมเชยด้วยใจจริง หากทำผิดก็เตือน ไม่ควรตำหนิภรรยาต่อหน้าสาธารณชนหรือคนในบ้าน เพราะจะเสียอำนาจการปกครอง สิ่งใดเป็นเรื่องส่วนตัว เช่น การเลี้ยงเพื่อน พบปะญาติมิตร ควรให้อิสระตามสมควร
อย่าดูหมิ่น ไม่เหยียบหยามว่าต่ำกว่าตน ไม่ดูถูกเรื่องตระกูล ทรัพย์ ความรู้ การแสดงความคิดเห็น ไม่กระทำเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวโดยไม่ปรึกษา หารือ และห้ามทุบตีด่าทอ ไม่นอกใจ ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงอื่น เพราะเป็นการดูหมิ่นความเป็นหญิงของภรรยา ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ภรรยาทุกคนจะปลื้มใจที่สุด ถ้าสามีรักและซื่อตรงต่อตนเพียงคนเดียว
มอบความเป็นใหญ่ให้ภรรยา ให้เป็นผู้จัดการทางบ้าน ไม่เข้าไปก้าวก่ายในเรื่องการครัว การปกครองภายใน นอกจากเรื่องใหญ่ๆ ซึ่งภรรยาไม่อาจแก้ปัญหาได้
ควรพูดกันด้วยวาจาไพเราะ แม้การตักเตือนกัน ต้องระมัดระวังคำพูด ถ้าถือเป็นกันเองมากไป อาจทำให้ครอบครัวไม่สงบ ก่อนแต่งงานเคยพูดไพเราะอย่างไร หลังแต่งงานก็พูดให้เพราะอย่างนั้น ควรฝึกฝนตนให้เป็นประโยชน์ คือมีความรู้ความสามารถ แล้วนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่นั้นมาช่วยเหลือกัน ประพฤติตนเป็นประโยชน์ต่อกันในทุกด้าน เมื่อรู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี ควรหรือไม่ควร ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง
สามีภรรยาเมื่อทะเลาะกัน มักจะโยนความผิดให้อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งแท้จริงแล้วย่อมมีความผิดด้วยกันทั้งคู่ อย่างน้อยก็ผิดที่ไม่หาวิธีที่เหมาะสมแนะนำตักเตือนกัน ปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งทำความผิด ควรวางตัวให้เหมาะสม เป็นพ่อบ้านก็ทำตัวให้สมกับเป็นพ่อบ้าน เป็นแม่บ้านก็ทำตัวให้สมกับเป็นแม่บ้าน วางตัวให้เหมาะสมกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายทั้งในบ้านและนอกบ้าน สามีภรรยาควรประพฤติ ปฏิบัติให้ดี ต้องฝึกสมาธิให้ใจผ่องใสเป็นปกติ เพราะคนที่ใจผ่องใส จะรู้ว่าในภาวะเช่นนั้น ควรจะวางตนอย่างไร ไม่ระเริงจนวางตนไม่เหมาะสม
สามีภรรยาควรยึดหลักคำพูดที่ไพเราะ เพื่ออุดข้อบกพร่อง จะได้เป็นคนมีประโยชน์ ทำใจให้ผ่องใส จะได้เกิดปัญญา วางตัวได้เหมาะสมกับที่ตัวเป็น หน้าที่ของสามี ต้องยกย่องให้เกียรติภรรยา ไม่ปิดบัง หากทำดี ก็ชมเชยด้วยใจจริง หากทำผิดก็เตือน ไม่ควรตำหนิภรรยาต่อหน้าสาธารณชนหรือคนในบ้าน เพราะจะเสียอำนาจการปกครอง สิ่งใดเป็นเรื่องส่วนตัว เช่น การเลี้ยงเพื่อน พบปะญาติมิตร ควรให้อิสระตามสมควร
อย่าดูหมิ่น ไม่เหยียบหยามว่าต่ำกว่าตน ไม่ดูถูกเรื่องตระกูล ทรัพย์ ความรู้ การแสดงความคิดเห็น ไม่กระทำเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวโดยไม่ปรึกษา หารือ และห้ามทุบตีด่าทอ ไม่นอกใจ ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงอื่น เพราะเป็นการดูหมิ่นความเป็นหญิงของภรรยา ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ภรรยาทุกคนจะปลื้มใจที่สุด ถ้าสามีรักและซื่อตรงต่อตนเพียงคนเดียว
มอบความเป็นใหญ่ให้ภรรยา ให้เป็นผู้จัดการทางบ้าน ไม่เข้าไปก้าวก่ายในเรื่องการครัว การปกครองภายใน นอกจากเรื่องใหญ่ๆ ซึ่งภรรยาไม่อาจแก้ปัญหาได้
หน้าที่ภรรยาต่อสามี จัดการงานดี จัดบ้านให้สบายน่าอยู่ จัดอาหารให้ถูกปาก จัดเสื้อผ้าเครื่องใช้ให้สะอาด ดูแลลูกให้ความรักอบอุ่น สงเคราะห์ญาติข้างสามี ด้วยการเอื้อเฟื้อ ให้ความช่วยเหลือตามฐานะ ไม่นอกใจ จงรักภักดี ซื่อสัตย์ต่อสามี รักษาทรัพย์ให้ดี ไม่ฟุ่มเฟือย ขยันทำงาน ไม่เอาแต่กิน นอน เที่ยว หรือเล่นการพนัน สามีภรรยาควรยึดเหนียวน้ำใจกันไว้ด้วยคุณธรรม แทนการสงเคราะห์ ที่ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติต่อกัน จะเป็นเงื่อนใจ คล้องไว้ในใจสามี คล้องไว้ในใจภรรยา ถ้าทำได้ตามหลักธรรมนี้ ต่อให้มนุษย์หน้าไหนก็มาพรากไปจากกันไม่ได้ แม้แต่ความตายก็พรากได้เพียงร่างกาย ส่วนดวงใจนั้นยังคงคล้องกันอยู่ชั่วนิรันดร์
อาตมามีข้อเตือนใจอยู่ว่า แม้บางคนตั้งใจแล้วว่าจะต้องยึดใจเอาไว้ ครั้นปฏิบัติจริงก็ไม่วายเขว พอสามีทำท่าจะหลงใหลออกนอกลู่ ภรรยาควรปักใจให้มั่นในการทำความดี ปฏิบัติหน้าที่ของเราไม่ให้บกพร่อง แล้วทุกอย่างจะดี
อีกหลักที่อาตมาต้องเตือนคือ ไฟในอย่านำออก ไม่นำเรื่องราวปัญหา ความร้อนใจต่างๆ ในครอบครัวไปเปิดเผยแก่คนทั่วไปภายนอก ส่วน ไฟนอกอย่านำเข้า หมายถึง ไม่นำเรื่องราวปัญหาต่างๆ ภายนอกที่ร้อนใจเข้ามาในครอบครัว ชีวิตในครอบครัว ต้องกินให้เป็นสุข จัดการเรื่องอาหารการกินในครอบครัวให้ดี ปรนนิบัติพ่อแม่ของสามีอย่าให้บกพร่อง ถ้าทำได้อย่างนี้ ตัวเราเองเวลากินก็จะกินอย่างมีความสุข ไม่ต้องกังวล
อานิสงส์ของการที่สามีสงเคราะห์ภรรยา จะทำให้ความรักยืนยง ทำให้สมานสามัคคีกัน ทำให้ครอบครัวมีความสงบสุข ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลัง “ภรรยานั้นอยู่ใกล้ชิด หากไม่ผูกมิตร ชีวิตจะสั้น ภรรยานั้นอยู่ร่วมกัน หากคิดสร้างสรรค์ บ้านนั้นเจริญ” ขอเจริญพร
อาตมามีข้อเตือนใจอยู่ว่า แม้บางคนตั้งใจแล้วว่าจะต้องยึดใจเอาไว้ ครั้นปฏิบัติจริงก็ไม่วายเขว พอสามีทำท่าจะหลงใหลออกนอกลู่ ภรรยาควรปักใจให้มั่นในการทำความดี ปฏิบัติหน้าที่ของเราไม่ให้บกพร่อง แล้วทุกอย่างจะดี
อีกหลักที่อาตมาต้องเตือนคือ ไฟในอย่านำออก ไม่นำเรื่องราวปัญหา ความร้อนใจต่างๆ ในครอบครัวไปเปิดเผยแก่คนทั่วไปภายนอก ส่วน ไฟนอกอย่านำเข้า หมายถึง ไม่นำเรื่องราวปัญหาต่างๆ ภายนอกที่ร้อนใจเข้ามาในครอบครัว ชีวิตในครอบครัว ต้องกินให้เป็นสุข จัดการเรื่องอาหารการกินในครอบครัวให้ดี ปรนนิบัติพ่อแม่ของสามีอย่าให้บกพร่อง ถ้าทำได้อย่างนี้ ตัวเราเองเวลากินก็จะกินอย่างมีความสุข ไม่ต้องกังวล
อานิสงส์ของการที่สามีสงเคราะห์ภรรยา จะทำให้ความรักยืนยง ทำให้สมานสามัคคีกัน ทำให้ครอบครัวมีความสงบสุข ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลัง “ภรรยานั้นอยู่ใกล้ชิด หากไม่ผูกมิตร ชีวิตจะสั้น ภรรยานั้นอยู่ร่วมกัน หากคิดสร้างสรรค์ บ้านนั้นเจริญ” ขอเจริญพร
*************************
เรื่องโดย : พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน)
เรียบเรียงโดย : บก.ไก่ วีรพล และทีมงานมงคลพระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น