วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วัดบวรฯ จัดทำล็อกเก็ต ที่ระลึกงานพระศพ สมเด็จสังฆราชฯ

วันที่ 30 ต.ค. 2556 พระโสภณคณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรฯ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิธีบำเพ็ญกุศลพระศพสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมี สมเด็จพระวันรัต เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้มีการจัดสร้าง ล็อกเก็ต ที่ระลึกในพิธีบำเพ็ญกุศลพระศพ เป็น 2 แบบ ได้แก่ แบบ 4 สี และ แบบซีเปีย (สีน้ำตาล) โดยมอบหมายให้อาตมาดูเรื่องการออกแบบทั้งหมด ซึ่งในเบื้องต้นมีแนวคิดว่าจะทำล็อกเก็ตเป็นรูปทรงไข่ด้านในมีพระรูปสมเด็จพระสังฆราช โดยแบบ 4 สีจะมองเห็นด้วยตาโดดเด่นชัดเจนนั้น ขณะนี้ได้เชิญ เจ้าหน้าที่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร มาพูดคุยเพื่อนำแนวคิดดังกล่าวไปออกแบบ ส่วนแบบซีเปีย (สีน้ำตาล) นั้นมอบหมายให้ พระธีระพันธ์ (ธีรโพธิ ภิกขุ) ซึ่งเป็นผู้เขียนภาพสีน้ำมันในหนังสือพระนิพนธ์จิตตนคร เป็นผู้ออกแบบล็อกเก็ตพระรูปสมเด็จพระสังฆราช อย่างไรก็ตามสำหรับจำนวนการจัดทำล็อกเก็ตนั้นยังไม่ได้มีการสรุปชัดเจน

พระธีระพันธ์ (ธีระโพธิ ภิกขุ) กล่าวว่า ขณะนี้กำลังร่างรูปแบบของล็อกเก็ตแบบซีเปีย เบื้องต้นมีแนวคิดจัดทำเป็นลายเส้นที่เป็นสีซีเปีย คล้ายๆ กับล็อกเก็ตสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ทำจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งคาดว่าการออกแบบจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 วัน จากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการพิธีบำเพ็ญกุศลพระศพสมเด็จพระสังฆราชพิจารณารูปแบบของล็อกเก็ต

วันเดียวกันที่ ตำหนักเพ็ชร ในการจัดพระราชพิธีบำเพ็ญพระกุศลพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มี ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ เป็นประธานในพระพิธีธรรมรับพระราชทานฉันเช้า พระภิกษุ จากวัดระฆังโฆษิตาราม จากนั้น พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคคล เป็นประธานในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ และพระพิธีธรรมรับพระราชทานฉันเพลจากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษ์ สำหรับการจัดพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพในวันนี้ ถือเป็นการเริ่มพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร 7 วัน ในการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งตลอดช่วงเช้าที่ตำหนักเพ็ชร ได้มีประชาชนมาเข้าแถวรอสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราชเนืองแน่น แม้อากาศจะร้อนอบอ้าวก็ตาม ทั้งนี้ ภายในวัดได้มีการจัดรถแพทย์ฉุกเฉิน และจัดนักเรียน โรงเรียนในพระสังฆราชูปถัมภ์คอยอำนวยความสะดวกแจกน้ำให้กับประชาชนที่รอเข้าแถว

พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า ตลอด 6 วันที่ผ่านมาได้มีประชาชนมาเดินทางมาสักการะพระศพแล้วกว่า 1 แสนคน ซึ่งขณะนี้เปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะ 3 ช่วง คือ 

- ช่วงเช้าหลังเสร็จพระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรม ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ไปจนถึงเวลา 10.30 น. 
- ช่วงบ่าย ตั้งแต่เวลา 12.30 น. ไปจนถึง เวลา 17.00 น. 
- หลังเสร็จพระพิธีธรรม ตั้งแต่เวลา 20.00-21.00 น

พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ องค์ดาไลลามะ ได้ส่งสาส์นธรรมสังเวชผ่านเว็บไซต์ http://www.dalailama.com/ แสดงความเสียพระทัยเมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก มีใจความดังนี้ "สหายทางจิตวิญญาณที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของ สมเด็จพระญาณสังวรฯ ในระยะเวลาอันสั้นหลังงานฉลองพระชนมายุ 100 พรรษา ในระหว่างที่ข้าพเจ้าสวดภาวนาอุทิศถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจมายังมหาเถรสมาคม และศิษยานุศิษย์นับหลายล้านคนของพระองค์ทั้งในประเทศไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก การจากไปของสมเด็จพระญาณสังวรฯ นั้น เราทั้งหลายได้สูญเสีย สหายทางธรรมอันวิเศษ


พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวต่อไปว่า องค์ดาไลลามะ ยังได้กล่าวไว้อีกว่า เมื่อหลายปีมาแล้ว ข้าพเจ้าได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ และได้รู้สึกเคารพนับถือและชื่นชมอย่างสุดซึ้งต่อวิถีทางที่พระองค์ทรงปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบที่มีต่อพระศาสนาได้สมบูรณ์ยิ่งตลอดพระชนม์ชีพอันยาวนานและมีความหมายยิ่งนั้น สมเด็จพระญาณสังวรฯ ได้ทรงอุทิศพระองค์ในการสร้างคุณประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติอย่างทั่วถึงตลอดมา องค์ดาไลลามะได้ทรงชี้แนะอีกว่า ในเวลาเช่นนี้พวกเราอาจรู้สึกถึงความสูญเสีย แต่ การอุทิศถวายที่ดีที่สุดนั้น คือ การทำอะไรก็ตามตามกำลังความสามารถ เพื่อพัฒนาสันติภาพและปัญญา อย่างเช่นที่ สมเด็จพระสังฆราชได้เคยทรงปฏิบัติสืบมา และพระองค์หวังว่าจะได้ส่งผู้แทนพระองค์มาสวดภาวนา และแสดงความอาลัยต่อประชาชนชาวไทย เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพนับถือ

ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวอีกว่า ชาวพุทธและองค์กรพระพุทธศาสนาจากประเทศต่างๆ ได้ส่งสาส์นแสดงความอาลัยมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ 

- พุทธสมาคมประเทศสเปน 
- องค์การพระพุทธศาสนาอินเดีย 
- สมาคมเถรวาทแห่งเม็กซิโก 
- คณะพระธรรมทูตจากประเทศมาเลเซีย


สำหรับบรรยากาศการถวายสักการะพระศพ มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งทางวัดบวรนิเวศวิหาร จะพยายามอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างดีที่สุด และฝากถึงประชาชนทุกคนที่จะเดินทางมายังวัด ขอให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ควรเตรียมร่ม หรือยาติดตัวมาด้วยหากมีโรคประจำตัว เพราะการเข้าถวายสักการะพระศพ ประชาชนต้องเข้าแถวยืนประมาณ 2-3 ชั่วโมง

“ส่วนการเปิดให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนประชาชน ที่ต้องการเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลพระศพ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักอำนวยการบำเพ็ญกุศลพระศพ ได้ที่ 0-2280-9578 สำหรับหน่วยงานราชการ เอกชน ประชาชน ที่แสดงความจำนงเป็นเจ้าภาพไว้แล้ว แต่ทางวัดบวรฯ ยังไม่ได้ติดต่อกลับ กรุณาติดต่อกลับมายังสำนักอำนวยการบำเพ็ญกุศลพระศพอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางวัดบวรนิเวศวิหาร ยังคงเปิดให้ประชาชนได้ถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระสังฆราชอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะมีพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ” พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าว

พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับเครื่องอัฐบริขาร ซึ่งเป็นเครื่องใช้ ของสมเด็จพระสังฆราช ในเบื้องต้น วัดบวรนิเวศวิหาร ได้นำมารวบรวมไว้ที่ ตำหนักคอยท่าปราโมช ในเบื้องต้น ทางวัดบวรนิเวศวิหาร มีแนวความคิด 2 ส่วน คือ 

1.การนำเครื่องอัฐบริขาร ไปจัดแสดงพิพิธภัณฑ์เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร 
2.อาจจะมีการสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นมาใหม่ เพื่อเทิดพระเกียรติ 

อย่างไรก็ตามแนวทางทั้ง 2 ส่วนนี้ จะต้องนำหารือในที่ประชุมคณะกรรมการพิธีบำเพ็ญกุศลพระศพ สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีสมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าอาวาส เป็นประธาน

ด้าน พระครูสังฆสิทธิกร กรรมการประชาสัมพันธ์ งานบำเพ็ญพระกุศลพระศพ สมเด็จพระญาณสังวรฯ กล่าวว่า สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เผยแพร่ คำถวายสักการะที่เป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้กล่าวอธิษฐานระหว่าง เข้าถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระสังฆราช มีเนื้อหาดังนี้ “สังขารานัง ขะยัง กัตวา สันตะคามิง นะมามิหัง” เกล้ากระหม่อมขอนอบน้อมนมัสการพระองค์ผู้ดับสิ้นสังขารบรรลุธรรมอันสงบระงับ

นอกจากนี้ ยังได้เผยแพร่ในเฟซบุ๊ก สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เพื่อที่จะให้ประชาชนช่วยกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ได้รับทราบกันทั่วถึงกันมากขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล สัตตมวาร (ครบ 7 วัน) คณะทูตประจำประเทศไทย จำนวน 32 ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี เกาหลี ศรีลังกา ออสเตรเลีย เข้าร่วมถวายสักการะและร่วมพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล สัตตมวาร ด้วย


*************************

เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น