10มิ.ย.2556 นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยถึงกรณี พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พระชื่อดัง ลูกศิษย์ หลวงพ่อพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา) ลาสิกขาบทว่า หลังทราบข่าวตนรู้สึกงงๆ และตกใจมาก เนื่องจากพระอาจารย์มิตซูโอะได้บรรพชามานานหลายสิบปี ทำคุณประโยชน์ด้านพระพุทธศาสนามากมาย โดยเฉพาะการสอนและเผยแผ่การปฎิบัติธรรมที่มีความชัดเจน เข้าใจง่าย มีการปฎิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสอนให้ทั้งชาวพุทธที่เป็นคนไทยและต่างชาติ และเดินทางไปเผยแผ่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับแนวทางปฎิบัติธรรม ทำการกุศลต่อสาธารณะนำสิ่งของที่ได้รับการถวายมาไปบริจาคช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
“ตอนแรกที่ทราบข่าวก็ไม่อยากเชื่อ ช็อกไปเลย เพราะไม่คิดว่าท่านมิตซูโอะจะสึก แต่คนจะคลอดลูก พระจะสึก ห้ามกันไม่ได้ ถือเป็นเรื่องของความพอใจของท่าน ท่านน่าจะคิดทำดีที่สุดแล้ว ส่วนเหตุผลของการสึกครั้งนี้น่าจะเป็นเหตุผลส่วนตัว ที่เรามิอาจจะทราบได้ เพราะที่ผ่านมาท่านไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย หรือมีปัญหา มีความขัดแย้งเรื่องใดๆ ท่านทำดีมาโดยตลอด เมื่อท่านสึกออกไปก็น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่ท่านได้สร้างแนวทางปฎิบัติไว้จะมีลูกศิษย์สืบทอดต่อไป อย่างไรก็ตาม กรณีมีกระแสข่าวว่าพระมิตซูโอะสึกที่วัดชนะสงครามฯนั้น บอกตรงๆผมไม่ทราบว่าท่านสึกที่ไหนจริงๆ เพราะการสึกอยู่ที่ผู้บวชพอใจว่าจะสึกที่ไหน กับใคร ”ผอ.พศ. กล่าว
ด้าน นายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี พร้อม นายศุภมิตร แก้วงอก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ร่วมกันเดินทางไปที่ วัดป่าสุนันทวนารา หมู่ 8 ต.ไทรโยค เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยเมื่อไปถึงวัดพบว่า วัดเงียบเหงามาก โดยนายสมชาติได้สอบถามเรื่องดังกล่าวจาก แม่ชีพิณพรรณ เนียมมุณี แม่ชีที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดนี้นานกว่า 8 ปี โดยแม่ชีพิณพรรณ เปิดเผยว่า ตนได้ทราบเรื่องหลวงพ่อลาสิกขาบทเมื่อประมาณ 7 โมงเช้า โดยทางมูลนิธิได้แจ้งมายังทางวัด รู้สึกตกใจมาก โดยทราบว่าสึกที่วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ และตอนนี้เดินทางไปญี่ปุ่นแล้ว
"ส่วนสาเหตุดิฉันไม่ทราบ แต่ได้รับทราบว่าหลวงพ่อท่านป่วยเป็น โรคเบาหวาน มานานกว่า 2 ปีแล้ว ท่านไม่ค่อยแข็งแรง และมีกิจนิมนต์ตลอดเกือบทุกวัน และอีกเหตุหนึ่งน่าจะมาจากท่านเคยพูดกับญาติโยมว่าท่านเป็นคนญี่ปุ่น หากมีโอกาสก็ อยากจะกลับไปช่วยคนญี่ปุ่นบ้าง เพราะคนญี่ปุ่นขณะนี้ก็ยังมีคนที่ลำบากมากเช่นกัน ซึ่งดิฉันเชื่อว่าเรื่องสุขภาพกับเรื่องการอยากกลับไปช่วยคนญี่ปุ่นทำให้ท่านลาสิขาบท แต่เรื่องอื่นๆไม่เคยได้รับทราบ ท่านเป็นพระที่น่ายกย่องนับถือเป็นพระที่มีคำสอนให้แก่ญาติธรรมเพื่อให้เกิดสติในการแก้ปัญหาต่างๆจำนวนมาก รู้สึกเสียดายมาก" แม่ชีพิณพรรณ กล่าว
ส่วนนายสมชาติ กล่าวว่า ตนได้รับทราบข่าวจากหลายฝ่ายที่โทรศัพท์มาถาม ดังนั้นเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงจึงเดินทางมาตรวจสอบ และทราบว่าพระอาจารย์มิตซูโอะได้ลาสิกขาบทแล้ว โดยตอนนี้ พระอาจารย์หนูพรม รองเจ้าอาวาสเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสแต่ตอนนี้ไม่อยู่ที่วัดก็เลยยังไม่ทราบว่าจะมีแนวทางอย่างไร แต่ตนรู้สึกว่าเสียดายพระปฏิบัติที่สึกออกไป เพราะประชาชนในพื้นที่ใกล้วัดต่างชื่นชมมากเพราะเป็นพระนักพัฒนาและมีศิษยานุศิษย์จำนวนมาก รวมถึงได้บริจาคเงินช่วยพัฒนาท้องถิ่นในพื้นที่จำนวนมาก จึงรู้สึกเสียดายมาก
นายศุภมิตร กล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจมาก เพราะตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้มีโทรศัพท์มาสอบถามจำนวนมาก ยิ่งเมื่อสอบถามมายังวัดทราบว่าพระอาจารย์มิตซูโอะลาสิขาบทจริงยิ่งเสียใจ ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความรักและบูชาท่านมาก เพราะท่านให้ทั้งการพัฒนาคน ทั้งพัฒนาท้องถิ่น ท่านให้ทั้งทุนการศึกษากับเด็กเยาวชนที่ด้อยโอกาสได้มีเงินเรียนหนังสือ วัดมีลูกศิษย์มากชาวบ้านก็ทำมาค้าขายได้มีรายได้สามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ตนรู้สึกเสียดายท่านมาก ซึ่งต้องรอดูว่าท่านอาจารย์หนูพรมท่านจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งในส่วนของผู้นำท้องที่ก็พร้อมที่จะช่วยวัดให้สามารถพัฒนาต่อ
ด้าน นายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี พร้อม นายศุภมิตร แก้วงอก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ร่วมกันเดินทางไปที่ วัดป่าสุนันทวนารา หมู่ 8 ต.ไทรโยค เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยเมื่อไปถึงวัดพบว่า วัดเงียบเหงามาก โดยนายสมชาติได้สอบถามเรื่องดังกล่าวจาก แม่ชีพิณพรรณ เนียมมุณี แม่ชีที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดนี้นานกว่า 8 ปี โดยแม่ชีพิณพรรณ เปิดเผยว่า ตนได้ทราบเรื่องหลวงพ่อลาสิกขาบทเมื่อประมาณ 7 โมงเช้า โดยทางมูลนิธิได้แจ้งมายังทางวัด รู้สึกตกใจมาก โดยทราบว่าสึกที่วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ และตอนนี้เดินทางไปญี่ปุ่นแล้ว
"ส่วนสาเหตุดิฉันไม่ทราบ แต่ได้รับทราบว่าหลวงพ่อท่านป่วยเป็น โรคเบาหวาน มานานกว่า 2 ปีแล้ว ท่านไม่ค่อยแข็งแรง และมีกิจนิมนต์ตลอดเกือบทุกวัน และอีกเหตุหนึ่งน่าจะมาจากท่านเคยพูดกับญาติโยมว่าท่านเป็นคนญี่ปุ่น หากมีโอกาสก็ อยากจะกลับไปช่วยคนญี่ปุ่นบ้าง เพราะคนญี่ปุ่นขณะนี้ก็ยังมีคนที่ลำบากมากเช่นกัน ซึ่งดิฉันเชื่อว่าเรื่องสุขภาพกับเรื่องการอยากกลับไปช่วยคนญี่ปุ่นทำให้ท่านลาสิขาบท แต่เรื่องอื่นๆไม่เคยได้รับทราบ ท่านเป็นพระที่น่ายกย่องนับถือเป็นพระที่มีคำสอนให้แก่ญาติธรรมเพื่อให้เกิดสติในการแก้ปัญหาต่างๆจำนวนมาก รู้สึกเสียดายมาก" แม่ชีพิณพรรณ กล่าว
ส่วนนายสมชาติ กล่าวว่า ตนได้รับทราบข่าวจากหลายฝ่ายที่โทรศัพท์มาถาม ดังนั้นเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงจึงเดินทางมาตรวจสอบ และทราบว่าพระอาจารย์มิตซูโอะได้ลาสิกขาบทแล้ว โดยตอนนี้ พระอาจารย์หนูพรม รองเจ้าอาวาสเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสแต่ตอนนี้ไม่อยู่ที่วัดก็เลยยังไม่ทราบว่าจะมีแนวทางอย่างไร แต่ตนรู้สึกว่าเสียดายพระปฏิบัติที่สึกออกไป เพราะประชาชนในพื้นที่ใกล้วัดต่างชื่นชมมากเพราะเป็นพระนักพัฒนาและมีศิษยานุศิษย์จำนวนมาก รวมถึงได้บริจาคเงินช่วยพัฒนาท้องถิ่นในพื้นที่จำนวนมาก จึงรู้สึกเสียดายมาก
นายศุภมิตร กล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจมาก เพราะตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้มีโทรศัพท์มาสอบถามจำนวนมาก ยิ่งเมื่อสอบถามมายังวัดทราบว่าพระอาจารย์มิตซูโอะลาสิขาบทจริงยิ่งเสียใจ ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความรักและบูชาท่านมาก เพราะท่านให้ทั้งการพัฒนาคน ทั้งพัฒนาท้องถิ่น ท่านให้ทั้งทุนการศึกษากับเด็กเยาวชนที่ด้อยโอกาสได้มีเงินเรียนหนังสือ วัดมีลูกศิษย์มากชาวบ้านก็ทำมาค้าขายได้มีรายได้สามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ตนรู้สึกเสียดายท่านมาก ซึ่งต้องรอดูว่าท่านอาจารย์หนูพรมท่านจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งในส่วนของผู้นำท้องที่ก็พร้อมที่จะช่วยวัดให้สามารถพัฒนาต่อ
*************************
เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น