วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เผยภาพ "มิตซูโอะ" ตอนสึก ควงคู่หญิงคู่ใจ


หลังจากอดีต พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก อายุ 63 ปี ชาวญี่ปุ่น เจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม หมู่ 8 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งบวชในไทยกว่า 38 ปี อีกทั้งเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกของ หลวงปู่ชา สุภัทโท พระสายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดัง แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ได้ลาสิกขาอย่างกะทันหัน โดย น.ส.ดารณี บุญช่วย กรรมการและเหรัญญิกมูลนิธิมายาโคตมี ระบุว่า พระอาจารย์ได้ลาสิกขาจริงและเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นแล้ว เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยไม่ได้แจ้งเหตุผลและไม่มีใครทราบว่าท่านลาสิกขาที่วัดใด สำหรับทิศทางของมูลนิธิ หลังจากนี้ยังคงดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องยอดเงินบริจาคไม่ขอตอบ และการแถลงครั้งนี้จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย

ขณะที่ แม่ชีพิณพรรณ เนียมมุณี ระบุว่า อดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ โทรศัพท์ทางไกลมาจากประเทศญี่ปุ่น แจ้งให้ทราบว่าเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิด และเตรียมเปิดคอร์สอบรมให้ความรู้ฝึกกัมมัฏฐานแก่ชาวญี่ปุ่นและคนไทยในญี่ปุ่น พร้อมกำชับให้ทุกคนปฏิบัติตามคำสอนนั้น

จากนั้นข่าวคราวของอดีตพระชื่อดังก็เงียบหายไป กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน เฟซบุ๊กส่วนตัวของ "Suttirat Muttamara" โพสต์ข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ ระบุข้อความว่า "ขอบคุณสำหรับผู้ที่ไม่หวังดีต่อดิฉัน ที่กล่าวหาว่าดิฉันวางยา Blackmail อาจารย์มิตซูโอะ โดยมีเจตนาทำให้ดิฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงทำให้อาจารย์มิตซูโอะผู้ที่มีเมตตา และความรักต่อดิฉัน จะต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของดิฉัน ด้วยการเปิดเผยความจริงต่อสังคมเร็วๆ นี้ ขอบคุณอีกครั้ง"

ต่อมา ผู้ใช้ชื่อว่า "แจ๋วแหว๋ว แหว๋ว" โพสต์ว่า "เป็นกำลังใจให้นะคะคุณแอน" ก่อนที่ "Suttirat Muttamara" ตอบว่า "ขอบคุณมากนะคะ"


ในเวลาไล่เลี่ยกัน "Suttirat Muttamara" ทยอยโพสต์ภาพถ่ายของอดีตพระมิตซูโอะกับหญิงวัยกลางคนร่วมสิบภาพ แต่ละภาพท่าทางแนบชิดสนิทสนมกัน ทั้งสองสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสแลดูมีความสุข ท่ามกลางสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายมุม

นอกจากนี้ เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ "drama-addict" ได้แชร์ข้อความและภาพชุดดังกล่าวมาเผยแพร่ มีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมากส่วนใหญ่มองในแง่บวก ยกย่องอดีตพระมิตซูโอะ ทำนองว่าได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะหากรู้ตัวว่าตัดกิเลสไม่ได้ ไม่เหมาะที่จะครองเพศฆราวาสแล้ว การตัดสินใจออกไปเผชิญความจริงทางโลกย่อมเป็นสิ่งที่สมควร

ผู้ที่ใช้ชื่อ "ปินวัตร ว่าน" มองว่า "เป็นเรื่องปกติ พระไม่มีใจแล้ว ก็ควรสึกออกไป คนเราชอบตั้งความหวัง ชอบยกย่องคนให้เป็นศาสดา เป็นเทพ โดยลืมพื้นฐานไปว่า เขาก็คนเหมือนเรา ดีกว่าเป็นอลัชชีห่มจีวร หากินกับศาสนาเป็นเหลือบเป็นไร ถ้าพระทุกรูปทำแบบหลวงพ่อท่าน ข่าวเสียหายของวงการพระไทยคงไม่แย่ขนาดนี้"

ส่วนผู้ใช้ชื่อ "GooNg Pannarai" มองว่า "คนเค้าแค่สงสัยกันว่าท่านบวชมาหลายปียังไม่สามารถละกิเลสได้ และท่านเริ่มมีกิเลสตอนไหน แต่ดีตรงที่พอท่านรู้ว่าตัวเองยังละไม่ได้ก็สึก ไม่ได้อยู่เป็นมารศาสนา ให้ลูกศิษย์ลูกหาออกมาแถแก้ตัวไปวันๆ ส่วนตัวยังนับถือท่านอยู่ค่ะ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ใช้ชื่อ "Suttirat Muttamara" เป็นคนเดียวกับ นางสุทธิรัตน์ มุตตามระ อายุ 52 ปี เป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือ เดอะควอลิตี้ กรุ๊ป และประธานกรรมการบริหาร บริษัท คิว เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้นำเทคโนโลยีศูนย์ต่อต้านความชราครบวงจรภายใต้แบรนด์ คิว เมดิคอล เซ็นเตอร์ มีแผนขยายศูนย์รูปแบบคลินิกความงามครบวงจรในย่านเมืองทองธานีและบางนา

*************************

เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น