กล่าวสำหรับ หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา นับเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมขลังในทุกด้าน พระเครื่องของท่านที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง คือ เหรียญปั๊มพิมพ์เสมา รุ่นแรก ปี ๒๔๙๖ และเหรียญปั๊มรุ่นต่อๆ มาอีกหลายรุ่น
ที่โด่งดังมาก คือ เหรียญหล่อโบราณ พิมพ์หน้าเสือ ปี ๒๔๙๗-๒๔๙๘, เหรียญหล่อโบราณ พิมพ์คอน้ำเต้า ปี ๒๔๙๗-๒๔๙๘ นอกจากนี้ยังมีพระบูชารูปเหมือน, รูปหล่อขนาดห้อยคอ, พระพุทธชินราช หล่อโบราณ, พระคันธารราฐ หล่อโบราณ, พระพิมพ์สมเด็จ, พระยอดธง, พระปิดตา และเครื่องรางอื่นๆ
สำหรับ เหรียญหล่อโบราณ พิมพ์หน้าเสือ รุ่นแรก เป็นรูปทรงเสมาไม่มีห่วง ด้านหน้า มีรูปหลวงพ่อน้อยครึ่งองค์ รูปท่านดูถมึงทึง จนท่านพูดขึ้นเองว่า “หน้าดุยังกับเสือกับยักษ์ ใครเขาจะเอาไปใช้” อันเป็นที่มาของชื่อเหรียญรุ่นนี้ ซึ่งต่อมามีการสร้างในรูปแบบเดียวกันนี้อีกหลายรุ่น ด้วยเนื้อโลหะต่างๆ รวมทั้ง เหรียญหล่อโบราณ พิมพ์คอน้ำเต้า ซึ่งล้วนเป็นพระหลักยอดนิยมของวงการมาช้านาน
หลวงพ่อน้อย (พระครูภาวนากิตติคุณ) นามฉายา “อินฺทสโร” เกิดที่บ้านหนองอ้อ ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๔๒๖ ปีมะแมบรรพชาเมื่ออายุ ๑๕ ปี ที่วัดสามกระบือเผือก ต่อมาโยมบิดาและโยมมารดาถึงวัยชรา จึงสึกจากสามเณรมาช่วยประกอบอาชีพ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ได้อุปสมบทที่วัดธรรมศาลา เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๔๔๖ มี พระอธิการทอง วัดลมุด เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูปริมานุรักษ์ (นวม) เป็นพระกรรมาวาจารย์ และ พระสมุห์แสง วัดใหม่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย และวิปัสสนาธุระ รวมทั้งวิชาไสยศาสตร์ จากอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงพ่อกอบ วัดบ่อตะกั่ว, พระครูปริมานุรักษ์ (นวม), พระครูทักษินานุกิจ (แจ้ง), อาจารย์อู๊ด (ฆราวาส) ฯลฯ ท่านเป็นผู้ที่มีความจำเป็นเลิศ มีจิตใจแน่วแน่ในการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีสมาธิที่มั่นคง ทำให้การศึกษาทางวิทยาคมเป็นไปอย่างก้าวหน้าและรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน ท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยเคร่งขรึม ไม่ค่อยพูดหรือแสดงออก ท่านได้ละความโลภ โกรธ หลง และลาภสักการะทั้งปวง มุ่งแต่ประกอบความเจริญรุ่งเรืองให้แก่พระศาสนา และสังคมส่วนรวม อีกทั้งมีความมั่นคงในพรหมจรรย์ตลอดมา
ท่านได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เมื่อพ.ศ.๒๔๕๕ ขณะที่บวชแล้ว ๙ พรรษา อายุ ๒๙ ปี ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ ๕๘ ปี
ปฏิปทาของท่านเป็นที่เลื่องลือกันว่า หลวงพ่อน้อย เป็นพระบริสุทธิสงฆ์ผู้มีวาจาสิทธิ์ และเชื่อว่าท่านสำเร็จในการทำผงวิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านเป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับวิชาการฝังลูกนิมิต การเสกทราย และการลงไม้หลักมงคล ซึ่งใช้สำหรับการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก จนปรากฏว่า สังฆเสนาสนะทั้งหลาย ที่ท่านได้สร้างไว้ ล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่มหัศจรรย์ยิ่ง
เรื่องที่มีการเล่าขานกันมาก คือ ในพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปและพระกริ่ง ที่วัดประสาทบุญญาวาท สามเสน เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๘ ท่านได้ร่วมลงจารอักขระบนแผ่นทองสำหรับหล่อพระ พร้อมทั้งร่วมในพิธีปลุกเสก ปรากฏว่า แผ่นทองของท่านเมื่อใส่ลงไปในเบ้าหลอมกลับไม่ละลาย ซึ่งเป็น ๑ ใน ๕ ของพระเกจิอาจารย์ที่เกิดปรากฏการณ์แบบเดียวกันนี้ จนเป็นที่โจษจันในอิทธิปาฏิหาริย์อย่างกว้างขวาง
หลวงพ่อน้อย มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๓ สิริอายุรวม ๘๗ ปี พรรษา ๖๗ ปัจจุบันสรีระของท่านซึ่งไม่เน่าเปื่อยแต่อย่างใด ยังคงตั้งประดิษฐานอยู่ที่วิหารจตุรมุขใหม่ “ศาลาอนุสรณ์ภาวนากิตติคุณ” เพื่อให้ศิษยานุศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือ ได้สักการบูชาโดยทั่วกัน
*************************
เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น