วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

“พุทธพรหมประกาศิต” วิสาขบูชารำลึก ปี 56 วัดไผ่ล้อม นครปฐม


พระเดชพระคุณ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข นิมิตบัญชาให้ พระเดชพระคุณ หลวงพี่น้ำฝน ทายาทศิษย์เอก จัดพิธีไหว้ครู ครอบเศียรพระพรหมประกาศิต ในวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2556 วิสาขบูชารำลึก เวียนเทียนรอบอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ เพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อศิษยานุศิษย์ทุกคน

สำหรับ องค์พระพรหม นั้นคือ เทพเจ้าสูงสุด แห่งความเมตตา เป็นผู้สร้างโลก ให้กำเนิดสิ่งต่าง ๆ ในจักรวาล และให้กำเนิดคัมภีร์พระเวท ในคติพุทธศาสนา พระพรหม เป็นชาวสวรรค์ชั้นสูงขั้นหนึ่งที่สูงกว่าเทวดาทั่วไป เป็นพระผู้วิเศษ ไม่ต้องกิน ไม่ต้องบริโภคอาหาร เหมือนสัตว์ในภูมิอื่น แช่มชื่นอิ่มเอิบโดยมีฌานสมาบัติเป็นอาหาร จึงไม่ต้องมีการถ่าย สรีระร่างกายหน้าตา มีสัณฐานกลมเกลี้ยงสวยงามนัก มีรัศมีออกจากกายตัวเลื่อม ประภัสสรรุ่งเรืองกว่ารัศมีพระอาทิตย์ และพระจันทร์ หลายพันเท่า เพียงแต่หัตถ์หนึ่งเล่าอันพระพรหมทั้งหลายเหยียดยื่นออกไปหวังจะให้ส่อง รัศมีไปทั่วห้วงจักรวาลก็ย่อมจักทำได้ อวัยวะร่างกายที่ต่อกัน คือ หัวเข่าก็ดี แขนก็ดี มีสัณฐานกลมเกลี้ยงเรียบงามนัก จักได้เห็นที่ต่อกันนั้นหามิได้ เกศเกล้าแห่งพระพรหมทั้งหลายนั้นงามนัก ปรากฏโดยมากมีศีรษะประดับด้วยชฎา สถิตเสวยสุขพรหมสมบัติอยู่ ณ พรหมภูมิที่ตนอุบัติตราบจน กว่าจะสิ้นอายุ ซึ่งเป็นเวลานานแสนนาน

พระพรหม เกิดจากท่านผู้มีความเพียรกล้า ทรงไว้ซึ่งปัญญาเกินสามัญชน ปรารถนาจะพ้นจากกิเลสานุสัย เพราะเห็นว่ามีโทษพาให้ ยุ่งนัก ใคร่จักห้ามจิตมิให้ตกอยู่ในอำนาจกิเลส จึงสู้อุตสาหะพยายามบำเพ็ญสมถภาวนา ตามที่ท่านบุรพาจารย์สั่งสอนกันสืบๆ มา บางพวกเป็นชีป่าดาบส บางพวก ทรงพรตเป็นโยคี ฤๅษีในสมัยที่มีพระพุทธศาสนาเกิดขึ้น ในโลก บางพวกก็เป็นพระภิกษุสามเณร ต่างบำเพ็ญสมถภาวนา จนได้สำเร็จฌาน ครั้นถึงกาลกิริยาตายจากมนุษย์โลก จึงตรงไปอุบัติเกิดในพรหมวิมาน ณ พรหมโลก อันเป็นแดนซึ่งมีแต่สุขไม่มีเรื่องกามเข้าไปเกี่ยวข้อง ตามอำนาจฌานที่ได้บรรลุเป็นพระพรหมผู้วิเศษ มหาเทพผู้สร้างโลกและลิขิตชีวิตมนุษย์ คือ พระเจ้าผู้สร้าง ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่ง เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกคน เป็นผู้รู้ความเคลื่อนไหวของสรรพชีวิต เหตุการณ์สำคัญของโลกล้วนอยู่ในสายตาของพระพรหม ทรงรับฟังคำอธิษฐานของผู้ศรัทธาเสมอ ผู้บูชาพระพรหมและทำความดี จะได้รับการบันดาลพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา

และสำหรับมงคลวัตถุ พุทธพรหมประกาศิต ที่สร้างขึ้นในครั้งนี้ ประกอบด้วย

1.ขนาดบูชา 
2.รูปหล่อลอยองค์ ขนาดห้อยคอ 
3.แบบเหรียญ ขนาดห้อยคอ


1.พุทธพรหมประกาศิต ขนาดบูชา สูง 9 นิ้ว เนื้อโลหะเพ้นท์สี พุทธศิลป์ พระพรหม ถือศาสตราวุธ ลูกประคำ หมายถึง การสวดมนต์ภาวนาเพื่อแผ่เมตตาไปยังสรรพชีวิต ดอกบัว คือ ความสวยงามของธรรมะ ความดีงาม พระองค์ทรงสอนให้มนุษย์กระทำในสิ่งที่ดีงามและมีเมตตาต่อผู้อื่นเสมอ คัมภีร์ คือ การตั้งตนอยู่ในความดีความชอบการศึกษาบทสวดและโยคะเพื่อมุ่งตรงสู่พระผู้เป็นเจ้า หม้อน้ำ คือ กมัณฑลุ หรือ หม้อกลัศ ที่นักพรตตวงน้ำจากแม่น้ำคงคาไปใช้ในพิธีกรรมบูชาเทพต่างๆ (น้ำมนต์บริสุทธิ์) ประทับนั่งบนพาหนะพญา
2.พุทธพรหมประกาศิต รูปหล่อลอยองค์ ขนาดห้อยคอ เนื้อโลหะชุบเงินไมครอน ชุบทองไมครอน พุทธศิลป์ พระพรหม ถือศาสตราวุธ ลูกประคำ หมายถึง การสวดมนต์ภาวนาเพื่อแผ่เมตตาไปยังสรรพชีวิต ดอกบัว คือ ความสวยงามของธรรมะ ความดีงาม พระองค์ทรงสอนให้มนุษย์กระทำในสิ่งที่ดีงามและมีเมตตาต่อผู้อื่นเสมอ คัมภีร์ คือ การตั้งตนอยู่ในความดีความชอบการศึกษาบทสวดและโยคะเพื่อมุ่งตรงสู่พระผู้เป็นเจ้า หม้อน้ำ คือ กมัณฑลุ หรือ หม้อกลัศ ที่นักพรตตวงน้ำจากแม่น้ำคงคาไปใช้ในพิธีกรรมบูชาเทพต่างๆ (น้ำมนต์บริสุทธิ์) ประทับนั่งบนพาหนะพญา ใต้ฐานดอกจันจารึกยันต์หัวใจพระพรหม เม กะ มุ อุ คือหัวใจพระพรหม มีความหมายในพรหมวิหาร 4 คือ เม - เมตตา กะ - กรุณา มุ - มุทิตา รู้สึกยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี อุ - อุเบกขา ความวางเฉย ไม่ยินดียินร้าย

3.พุทธพรหมประกาศิต แบบเหรียญ เนื้อ 3 กษัตริย์เพ้นท์สี พุทธศิลป์ ด้านหน้า เหรียญพุทธพรหมประกาศิต ตรงกลาง พระพรหม ถือศาสตราวุธ ลูกประคำ หมายถึง การสวดมนต์ภาวนาเพื่อแผ่เมตตาไปยังสรรพชีวิต ดอกบัว คือ ความสวยงามของธรรมะ ความดีงาม พระองค์ทรงสอนให้มนุษย์กระทำในสิ่งที่ดีงามและมีเมตตาต่อผู้อื่นเสมอ คัมภีร์ คือ การตั้งตนอยู่ในความดีความชอบการศึกษาบทสวดและโยคะเพื่อมุ่งตรงสู่พระผู้เป็นเจ้า หม้อน้ำ คือ กมัณฑลุ หรือ หม้อกลัศ ที่นักพรตตวงน้ำจากแม่น้ำคงคาไปใช้ในพิธีกรรมบูชาเทพต่างๆ (น้ำมนต์บริสุทธิ์) ประทับนั่งบนพาหนะพญาหงส์ ด้านล่างจารึกคำว่า “พุทธพรหมประกาศิต” ส่วนพุทธศิลป์ภายในกรอบ 5 เหลี่ยม ล้อมรอบด้วย ลายดอกบัวตูม บัวบาน ด้านบนสุด ประดิษฐาน พระพุทธเมตตา ประดิษฐานอยู่ ณ พุทธคยา พุทธอนุสรณ์สถาน แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ ประเทศอินเดีย พุทธศาสนิกชนนิยมไปกราบนมัสการกันมาก มีอายุถึง 1,400 กว่าปี พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหรือปางภูมิสัมผัส ปิดทองเหลืองอร่าม เหตุที่เรียกว่า พระพุทธเมตตา เนื่องเพราะพระพักตร์เปี่ยมไปด้วย ความอ่อนโยน เมตตากรุณา

พุทธศิลป์ ด้านหลัง เหรียญพุทธพรหมประกาศิต ตรงกลาง ยันต์นะเมตตา ยันต์ครู ประจำองค์หลวงพ่อพูล ล้อมรอบด้วยยันต์พระคาถาหัวใจพระพรหม เม (เมตตา) กะ (กรุณา) มุ (มุทิตา) อุ (อุเบกขา) จารึกล้อมไว้ใน 4 ทิศ ยันต์หัวใจพระพรหม เม กะ มุ อุ คือหัวใจพระพรหม มีความหมายในพรหมวิหาร 4 คือ เม - เมตตา กะ - กรุณา มุ - มุทิตา รู้สึกยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี อุ - อุเบกขา ความวางเฉย ไม่ยินดียินร้าย ส่วนพุทธศิลป์ภายในกรอบ 5 เหลี่ยม จารึกยันต์พระคาถา พระเจ้า 5 พระองค์ นะ โม พุท ธา ยะ จารึกอักขระอักษรยันต์คำว่า พระพุทธเมตตา ด้านล่าง ยันต์เรียกธาตุทั้ง 4 นะ มะ พะ ธะ ดิน น้ำ ลม ไฟ ด้านล่างจารึกอักษรภาษาไทย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม

ฤกษ์มงคลพิธีปลุกเสก อธิษฐานจิตหน้าสังขารหลวงพ่อพูล พระเดชพระคุณหลวงพี่น้ำฝนอัญเชิญดวงวิญญาณหลวงพ่อพูล รวมพลังปลุกเสกแผ่เมตตา พร้อมด้วยพระเถราจารย์ทรงคุณวิเศษ นั่งปรกอธิษฐานจิต ในวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2556 เวลา 17.59 น. เป็นต้นไป
มงคลวัตถุพุทธพรหมประกาศิต นับเป็นสุดยอดสิริมงคลแห่งความเมตตา เหนือโลก เหนือจักรวาล ลิขิตชะตาชีวิต บันดาลพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา บูชาแล้วมีแต่ความสุข ความเจริญ มีคุณวิเศษคุ้มครองป้องกันภัย ให้โชคลาภ ทรงอานุภาพตลอดกาล ปัจจัยร่วมบุญใหญ่สมทบทุนสร้างวิหารหลวงพ่อพูล สอบถามรายละเอียดได้ที่ วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม โทร.087-1517799, 087-6984777, 087-7567555


*************************

เรื่องโดย : บก.ไก่ วีรพล
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น