วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เปลี่ยนผ้าครองหลวงพ่อพูล บูชาครูบูรพาจารย์ วัดไผ่ล้อม นครปฐม


"พระมงคลสิทธิการ" หรือ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข พระอมตะเถราจารย์ แห่งวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่มีประชาชนให้ความเคารพศรัทธาทั่วประเทศ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ ด้วยความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เสมอต้นเสมอปลาย ให้ความเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ทุกชั้นวรรณะ

เมื่อครั้งที่หลวงพ่อพูลมีชีวิตอยู่ ได้สร้างคุณประโยชน์ไว้มากมายในบวรพุทธศาสนา เป็นที่ประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรมถาวรวัตถุทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจากความตั้งใจ จรรโลงไว้เพื่อคุณงามความดี มีหลักยึดพระธรรมในการรังสรรค์ด้วยความเสียสละ เพื่อสังคมส่วนรวมอย่างแท้จริง

ทั้งนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๔๘ ตรงกับวันวิสาขบูชา ท่านได้ละสังขารอย่างสงบ จวบจนวันนี้ครบ ๑๐๑ ปีชาติกาล สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย คงสภาพเดิมทุกประการ พุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศ ต่างแห่แหนเดินทางมากราบสักการะสังขารของท่านมิขาดสาย ทำให้ทุกวันนี้บนศาลาการเปรียญ ที่ประดิษฐานสังขารของท่านมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมากราบสังขารหลวงพ่อ แน่นขนัดทุกวัน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต เพื่อความเป็นสิริมงคลในหน้าที่การงาน ค้าขายดีมีกำไร ไม่เจ็บไม่จน กินอิ่มนอนอุ่น ตลอดไป

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์
หรือ หลวงพี่น้ำฝน ทายาทศิษย์เอกหลวงพ่อพูล ประธานมูลนิธิหลวงพ่อพูล และเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม บอกว่า ในระหว่างที่หลวงพ่อพูลยังมีชีวิตอยู่นั้น มีชาวบ้านมาให้ท่านเจิมแป้งนะเมตตามหามงคล นับเป็นความเมตตาของหลวงพ่อพูลที่มีต่อลูกศิษย์ลูกหาทั่วไปอย่างมาก โดยเชื่อว่าการเจิมแป้งที่เสกโดยพระเกจิอาจารย์นั้น ถือเป็นการเสริมบารมี และส่งผลให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในชีวิต มีโชค มีลาภ ร่ำรวยมหาศาล ไม่เจ็บ ไม่จน กินอิ่ม นอนอุ่นตลอดกาล จากนั้นญาติโยมเหล่านี้จะเดินทางกลับมาให้เจิมอีก เพราะต่างสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา นี่คือที่มาแห่งการเจิมแป้งนะเมตตามหามงคล ตำรับหลวงพ่อพูลที่เป็นอมตะมายาวนาน จวบจนปัจจุบันนี้

อย่างก็ตามในวันอาทิตย์ที่ ๑๙ พฤษภาคมนี้ เวลา ๑๘.๐๙ น.จะได้เปิดโอกาสให้ญาติโยมศิษยานุศิษย์ ได้สัมผัสสังขารหลวงพ่อพูล พระอริยสงฆ์ สุดยอดพระอมตะเถราจารย์ อย่างใกล้ชิด ณ ศาลาการเปรียญ วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม โดยจัดให้มีพิธีถวายสักการะสรีระพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพูล พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ประกอบพิธีสรงน้ำ เช็ดตัว เปลี่ยนผ้าครอง ลงกระหม่อม ในโอกาสนี้จะเปิดโอกาสให้ญาติโยม จรดศีรษะที่ปลายเท้าสังขารหลวงพ่อพูล (ลงกระหม่อม) เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยพิธีเริ่มตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๙ น. เป็นต้นไป ณ ศาลาการเปรียญวัดไผ่ล้อม

ส่วนพิธีไหว้ครูครอบครูของวัดไผ่ล้อม หลวงพี่น้ำฝน บอกว่า จะจัดขึ้นวันศุกร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา และถือว่าเป็นวันละสังขารครบ ๘ ปีของหลวงพ่อพูล พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๙ น. ผู้เข้าร่วมพิธีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ในวันดังกล่าวจะมีข้าราชการ นักธุรกิจ พ่อค้า เหล่าศิลปิน ดารานักร้อง ศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศ ทุกสาขาอาชีพ ต่างมุ่งมาที่วัดไผ่ล้อมเพื่อกราบขอพรหลวงพ่อพูลและร่วมพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ถือเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาช้านานจากนั้นญาติโยมเหล่านี้จะเดินทางกลับมาให้เจิมอีก เพราะต่างสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา นี่คือที่มาแห่งการเจิมแป้งนะเมตตามหามงคล ตำรับหลวงพ่อพูลที่เป็นอมตะมายาวนาน จวบจนปัจจุบันนี้


ทั้งนี้ก่อนถึงวันพิธีไหว้ครูครอบครูของวัดไผ่ล้อม จะมีพิธีปลุกเสกสุดยอดวัตถุมงคล วิสาขบูชารำลึก "เหรียญพุทธพรหม ประกาศิต" ด้านหน้าเป็นพุทธพรหมประกาศิต ตรงกลาง พระพรหม ถือศาสตราวุธ ประทับนั่งบนพาหนะพญาหงส์ ด้านล่างจารึกคำว่า "พุทธพรหมประกาศิต" เพื่อนำปัจจัยสมบททุนสร้างวิหารหลวงพ่อพูล

"ตลอด ๗ ปี ที่ผ่านมานั้นจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาจับจองสถานที่ เพื่อเข้าร่วมพิธีครอบครู ณ บริเวณรอบๆ ภายในบริเวณวัด ซึ่งนับเป็นภาพที่แสดงถึงคลื่นมหาชนที่มีความศรัทธาต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล" หลวงพี่น้ำฝนกล่าว

ในพิธีจะมีการอัญเชิญดวงวิญญาณครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทสรรพวิชาพุทธาคม เป็นเดชทวีคูณเพิ่มพูนพลังเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยแรงบารมีของทุกพระองค์ สู่คณะศิษยานุศิษย์ทุกสาขาอาชีพ ให้บังเกิดความเจริญรุ่งเรืองสมปรารถนา ในการประกอบกิจตลอดไป เหล่าศิลปินดารานักร้องที่มาร่วมพิธีทุกปี และในปีนี้ก็ยังคงมาร่วมพิธีด้วย ได้แก่ สยม สังวริบุตร, นก บริพันธ์, เขตต์ ฐานทัพ, นุ่น วรนุช, พลพล พลกองเส็ง, เติ้ล ตะวัน, ใหม่ สุคนธวา, อู๋ นวพล, กระแต ศุภักษร, ตั้ม วิชญะ ฯลฯ

พร้อมกันนี้หลวงพี่น้ำฝนยังบอกด้วยว่า “เหตุที่คนมาวัดไผ่ล้อม โดยเฉพาะในวันไหว้ครูครอบครูเพิ่มขึ้นทุกๆ ปีนั้น เกิดจากความศรัทธาที่บอกกันแบบปากต่อปาก ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีผู้คนเข้าวัดเพื่อหาวัตถุมงลเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ รวมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจในการต่อสู้กับชีวิตและประกอบอาชีพในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ”



พิธีบูชาครูบูรพาจารย์ ชุมนุมเทพ บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบชาติกาล ๑๐๑ ปี หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข ในวันพุธที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๓๙ น. ณ วัดไผ่ล้อมเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีไทย และเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตา สืบสานตำนานพระเวทหลวงพ่อพูล

งานชุมนุมเทพ นับเป็นบรรยากาศการรวมตัวกันของกลุ่มคนผู้ศรัทธา ตกแต่งซุ้มงดงามด้วยดอกไม้หลากสีสัน เติมเต็มมนต์ขลัง กลิ่นธูปควันเทียน ขับขานบูชาด้วยจังหวะดนตรี และบทสวดแบบอินเดีย เนรมิตสถานที่ให้เป็นสถานแห่งเทพอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นประเพณีแห่งความเชื่อ และศรัทธาในต่างศาสนา ที่งดงาม เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที ต่อสิ่งที่มองไม่เห็น เพื่อเป็นการบูชาองค์เทพต่างๆ เป็นการทำบุญใหญ่บูชาครูบาอาจารย์

สำหรับพิธีการจัดชุมนุมองค์เทพ นับเป็นบรรยากาศการรวมตัวกันของกลุ่มคนผู้ศรัทธา มีร่างทรงและคนมีองค์มาร่วมชุมนุมกว่า ๑,๐๐๐ คน ที่มาด้วยชุดหลากสีสันตามองค์เทพที่มาประทับร่าง ส่วนใหญ่จะเป็นชุดแบบอินเดีย ชุดไทยโบราณ ชุดจีน ชุดไทย รวมทั้งชุดพื้นเมือง สุดแล้วแต่จะอยู่ที่จินตนาของใคร มีทั้งที่มาเดี่ยวและเป็นหมู่คณะห้อมล้อมด้วยหมู่ลูกศิษย์นับร้อย เช่น 

๑.พระลักษมีมาตา พ่อจ้าวทุ่ง (แม่หนอมสุพรรณ) 
๒.แม่ย่าโขนสุโขทัย บางแพ 
๓.พ่อนารายน์ แม่ลักษมี (พ่อกุมารเนื้อทอง) ปราณบุรี 
๔.ปู่สมิงนารายน์ ตะโกสูง 
๕.พ่อเอกาทศรถ หุบกระพง
๖.เจ้าพี่เอกชัย มาลัยแก้ว กาญจนบุรี 
๗.เสด็จพี่พลายชุมพล พระงาม ๒ 
๘.เสด็จพ่อปิยะ บางเลน 
๙.พ่อเจ้าหลวงกาวิละ ณ เชียงใหม่ 
๑๐.เสด็จพ่อจุลทิพวรรณ เจ้าพ่อกวนอู กำแพงเหนือ 
๑๑.ปู่ศรีเทพ บ้านโพธิ์คู่ ๑๒.สมิงขาว บ้านดอนชะเอม 
๑๓.อากงไถ่เซียงเหล่ากุง ดอนเสลา บ้านโป่ง เป็นต้น ที่พิเศษ คือร่างทรงกรมหลวงชุมพรฯ มีสารวัตรทหารเรือ ๔ คนมาคอยอำนวยความสะดวกคล้ายกับองครักษ์

"องค์เทพแต่ละองค์ มีความประสงค์ลงมาสร้างบารมี ช่วยมนุษย์ บำรุงพระศาสนา ท่านจึงต้องเลือกร่างทรงที่มีคุณสมบัติและความดีงาม มีจิตใจเป็นกุศล เพื่อท่านจะได้ลงมาโปรดมนุษย์ได้ ท่านจะเลือกคนดี มีบารมีเท่านั้น องค์พรหม ท่านจะเลือกร่างทรงที่ปฏิบัติ เคร่งในศีล มีบารมีมากๆ ยึดมั่นในคุณธรรม เช่น พรหมวิหาร ๔ มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา " หลวงพี่น้ำฝนกล่าว

*************************

เรื่องโดย : คมชัดลึกออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น