วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

จุดไฟในใจคน : สามีเจ้าชู้ .....ไม่รู้เป็นอะไร?

สามีเจ้าชู้ ...ไม่รู้เป็นอะไร? “รักษ์โลก ยกเว้นภรรยา”
หลวงพี่แนะ “ใช้ปัญญาเรียนรู้กายใจ” ตามแนวพุทธองค์

เจริญพร สัปดาห์นี้มีเรื่องครอบครัวของโยมใกล้ตัว มาเล่าเป็นวิทยาทาน อาตมาให้แสงสว่าง คลายปม แบบรวมมิตร ทั้งสามีภรรยาและลูก ประเด็นสำคัญโยมที่เป็นสามีอยู่ในห้วงวัยกลางคน ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ที่ผ่านมาครอบครัวมีความสุขสมบูรณ์ งานที่ฝ่ายชายทำ ต้องเดินทางไป 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นงานสบาย ไม่มีอะไรต้องเครียด มีเงินเดือนสูง และออกจะขี้เหนียวด้วยซ้ำ!!!

วันเวลาทำให้เขาเปลี่ยนไปตามธรรมชาติของสามีที่มักมาก ไม่รู้จักพอ เห็นแก่ตัว ซึ่งมันเป็นสัจธรรมของชีวิต ....ที่สำคัญคนเราพอเริ่มมีเงินขึ้น ก็เริ่มออกอาการชาติเจ้าชู้ประตูดิน

“เขากลายเป็นสามีที่รักษ์โลก จีบผู้หญิงหน้าตาดีทุกคน ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ไม่รักภรรยาและลูกที่บ้าน” เขาขยันรณรงค์นำตัวเองเข้าสู่การสร้างโลกใบใหม่ที่มีแต่สาวๆ นอกบ้าน และลดการใช้ภรรยาที่บ้าน โดยการอนุรักษ์ไว้บนหิ้ง

พอมีเงินมีทองเหลือกินเหลือใช้ มีโบนัสเหลือรับประทาน มีบ้าน มีรถ มีความเป็นอยู่อย่างหรูหรา ....ผู้หญิงก็เริ่มเข้ามาในชีวิต ประกอบกับเป็นผู้ชายพูดเก่ง ใส่ทองเส้นโต และมีความกะล่อนเป็นทุนเดิม แต่ก็มิได้ขาดตกบกพร่อง ในการเลี้ยงดูลูกเมีย เงินทองจ่ายให้ทุกเดือนไม่เคยว่างเว้น ค่าน้ำค่าไฟ ค่ากินค่าอยู่ ค่าเทอมลูก เขาดีเพียบพร้อมทุกอย่าง โดยเฉพาะการสร้างบ้านหลังโตให้ภรรยาและลูกพักพิงอยู่อาศัย มีรถให้ใช้ ซื้อให้ทุกอย่างตามที่ร้องขอ

ข้อเสียเขาไม่ค่อยกลับบ้าน นานๆกลับบ้านที และนี่ล่ะคือชนวน ที่ไปพบสาวๆตามจังหวัดต่างๆ แล้วก็ไปมีกิ๊ก มีชู้ มีเมียน้อย ซึ่งเรื่องนี้น่าสงสัย ทำไมสามีเจ้าชู้ ...ไม่รู้เป็นอะไร?

เมื่อเหตุการณ์มันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ ก็ต้องถามถึงความรับผิดชอบ ถ้าทุกอย่างดำเนินถูกต้อง ไม่บกพร่อง เรียบร้อยดี ภรรยาควรทำใจ ดูแลบ้าน ดูแลทรัพย์สมบัติ ดูแลลูก ดูแลสุขภาพใจตนเองให้มีความสุขความพอดี เรื่องนี้อาตมาสอนได้อย่างเดียวคือ “ปลง”

“ต้องปลง แล้วปรับความรู้สึกให้นิ่ง คิดเสียว่าเราทำบุญกับเขามาแค่นี้ อยู่แบบเป็นเพื่อนกัน ช่วยเหลือเจือจานกัน เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน” เขาจะไปไหน ไปมีใคร ปล่อยเขาไป เสียเวลารั้งตัวไว้ เพราะหัวใจมันไปไกล ยากกู่ให้กลับ คิดเสียว่าทำกรรมร่วมกันมาแค่นี้

มาเริ่มต้นปรับอารมณ์ใหม่ ไม่ต้องไปเรียกร้องอะไรให้เหนื่อย เขาเลี้ยงเรา เลี้ยงลูก ทำหน้าที่สามี ถึงแม้จะไม่เต็มร้อย แค่ห้าสิบ ก็ถือว่าดีกว่าเขาไปแล้วไปเลย ไม่รับผิดชอบ มุมดีของสามีก็ยังมี ดีกว่าผู้ชายหลายๆคน สามีคนนี้ถือว่าชั่วแค่ครึ่งเดียว คิดได้แล้ว ปลงได้แล้ว ก็ให้อภัยเขา ขอบคุณเขาที่ยังเลี้ยงดูเราและลูก

อาตมาไม่ได้เข้าข้างผู้ชาย แต่อาตมาอยากให้ชีวิตมันดำเนินต่อไป ลูกสาวยังต้องโต ต้องเรียน ต้องทำงาน และต่อไปเขาต้องมีครอบครัว ฉะนั้นต้องประคองชีวิต อย่าให้เรือล่ม ไปให้ถึงฝั่ง ถึงแม้จะมีคลื่นลมบ้าง แต่ฟ้าหลังฝน อากาศย่อมเย็นสบายเสมอ และหากต้องอยู่กับสามีเจ้าชู้อย่างไม่ทุกข์ อาตมาแนะนำ จงจำไว้ว่าความรัก คือกิเลส ทำให้ปิดบังความจริง ผู้ชายยังไม่ปล่อยวางเรื่องแบบนี้ ถึงอายุมาก ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจคนแบบนี้ได้ เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ ต้องการความรักจากใครต่อใครอยู่ตลอด ชอบส่ง sms หาสาวๆ เชิงชู้สาว ภรรยาอย่าไปรู้ เพราะมันเสียดแทงหัวใจ อย่าให้กิเลสมันเล่นงาน อย่าไปอินกับข้อความ ไม่มีประโยชน์ มันเป็นวิบากกรรม ต้องชดใช้กันไป หมดเหตุก็หมดทุกข์ อย่าไปยึดติดกับคำว่า เรา ของเรา

ประคับประคอง ระวังโรคเครียด ถ้าเครียดก็ป้อแป้ ต้องดับไฟโทสะสุมที่รุ่มร้อน มาสร้างความเย็นในบ้าน ถึงสามีเลือกที่จะหาน้ำเย็น นอกบ้านมาดื่มคลายร้อน โดยหารู้ไม่ว่าที่ดื่มเข้าไปคือน้ำกรด! ควรปล่อยเขาไป หมั่นทำทานด้วยใจที่สละออก รักษาศีลห้า และหมั่นตามรู้กายตามรู้ใจ ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่อารมณ์ร้อน อย่าสร้างปัญหาให้บานปลาย ภรรยาส่วนใหญ่เดินเกมผิด โวยวายไว้ก่อน ซึ่งที่จริงแล้ว ถ้ายังไม่อยากเลิกก็ต้องรักษาครอบครัว พูดคุยเหตุผล อย่าใช้น้ำเสียงแนวจับผิด ถ้าพื้นฐานจิตใจสามีเป็นคนดี แต่เผลอประพฤติชั่วตามกิเลสไปชั่วครั้งชั่วคราว เขาจะรู้เต็มอกว่าผิด จะพยายามอ่อนให้เรา แต่พอไปจี้ว่าผิด เขาจะต่อต้านทันที เพราะนี่คือการป้องกันตัวของสามีเจ้าชู้

ถ้าอยากให้กลับ ควรสร้างบรรยากาศมิตรภาพ แต่ถ้าเขากลับมาบ้านแล้ว เรามัวแต่ด่า เขาจะออกจากบ้านไปอีกรอบหนึ่ง สามีภรรยาในอีกนัยหนึ่งคือเพื่อนแท้ของกันและกัน ถ้าฝ่ายชายสามารถมั่นใจได้ว่า เมื่อกลับบ้านมาแล้วภรรยาอภัยให้ พูดจาดีๆ ด้วย ไม่ด่าไม่ว่า เขาจะเกรงใจ ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถเลิกรากับมือที่สามได้ แต่ก็จะไม่กล้าทำอะไรออกนอกหน้ามากนัก ที่สุดแล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะทนไม่ได้เอง กล่าวคือ ถ้าเรายังคงความสุขุมมั่นคง เราก็จะสามารถรักษาครอบครัวเอาไว้ได้

แต่ถ้าไม่ต้องการเขาแล้ว อยากเลิก ก็ทำอะไรตามอารมณ์ได้เลย แต่ถ้ายังรักสามี ต้องพยายามประคับประคอง สามีส่วนใหญ่มีพื้นฐานทางจิตใจไม่ได้แย่มากนัก หลายคนล้วนมีมโนธรรม เพียงแต่มีปัญหาในครอบครัวมาก จนความรักจืดจาง ทำให้สุดท้ายไปมีคนอื่น อาตมาขอแนะนำให้ประนีประนอมและให้อภัย เพื่อให้ชีวิตคู่สามารถดำเนินสุข ตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองด้วยการอดทน ไม่วู่วาม รู้จักให้อภัย มีเหตุผล หันมาเริ่มต้นทำทาน รักษาศีล และตามรู้กายใจ เป็นการเติมความสว่างความเย็นให้ครอบครัว ทำให้เรื่องร้ายแรงตามกรรมเก่า ไม่ได้แรงและร้ายมากนัก ด้วยการสร้างกรรมดีในปัจจุบัน

สุขุมรอบคอบ ใช้ปัญญาและเหตุผลในการแก้ไข และต้องไม่ลืมว่าการรอคอยก็เป็นอีกกระบวนการหนึ่งของการแก้ปัญหา เรื่องบางอย่างถ้าไม่สามารถจัดการโดยตรงได้ ต้องรอให้มันดำเนินและคลี่คลายไปด้วยตัวของมันเอง ระหว่างนั้นควรยกระดับจิตใจด้วยการทำทาน รักษาศีล เรียนรู้กายใจตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อให้ช่วงเวลาแห่งความทุรนทุราย กลับกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการศึกษาแนวทางความพ้นทุกข์อย่างถาวร...ขอเจริญพร

*************************




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น