วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

พระพุทธชินราช รุ่น จอมราชันย์

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือ ชาวบ้านนิยมเรียกว่า "วัดใหญ่" อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นสถานที่ประดิษฐานพระคู่บ้านคู่เมืองอันศักดิ์สิทธิ์มาแต่ครั้งอดีต นั่นก็คือ พระพุทธชินราช ซึ่งเป็นประติมากรรมพระพุทธรูปที่สวยสง่างามมากที่สุดในโลกองค์หนึ่ง

หลวงพ่อพระพุทธชินราช ประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ มาเป็นเวลานับร้อยปี เป็นที่พึ่งทางใจให้แก่พุทธศาสนิกชนมาทุกยุคทุกสมัย

ในอดีต มีการจัดสร้างวัตถุมงคลที่จำลองรูปหลวงพ่อพระพุทธชินราช มาตั้งแต่ปี 2454 นับเป็นเวลาร้อยปี แทบจะเรียกได้ว่า สร้างมาแล้วในทุกๆ พิมพ์

ล่าสุด วัดพระศรีรัตนมหาธาตุได้มีการจัดสร้าง "พระพุทธชินราช รุ่นจอมราชันย์" โดยจัดให้มีพิธีเททอง ณ มณฑลพิธีวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ โดยมี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังมาร่วมอธิษฐานจิต และจารอักขระเลขยันต์ลงในแผ่นทอง

สำหรับแนวคิดการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อเน้นความงดงามในพิมพ์พระ โดยเฉพาะเหรียญหล่อฉลุ 4 มิติ ซึ่งนับว่าเป็นงานพุทธศิลป์แห่งปีพุทธชยันตี เป็นเหรียญที่สามารถถอดประกอบได้ 4 ชิ้น ซึ่งอาศัยภูมิปัญญาในเชิงช่างยุคเก่ามาผสานกับเทคโนโลยีของช่างยุคใหม่ จะเน้นความละเอียดลออ เส้นสาย ลวดลายต่างวิจิตรบรรจง นับว่าเป็นงานประติมากรรมเหรียญพระพุทธชินราช ที่ควรค่าแก่การสะสม และจะเป็นตำนานต่อไป

ในยุคร้อยกว่าปีที่ผ่านมา พระเถระผู้มากด้วยวิชามักจะเล่นแร่แปรธาตุ ผสมโลหะชนิดต่างๆ เข้ามาด้วยกัน อาทิ เนื้อนวโลหะ เนื้อสัตตโลหะ เนื้อสำริด ซึ่งบรรดาพระเกจิ อาจารย์ที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์, หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม และหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จ.นคร สวรรค์ เป็นต้น ได้นำโลหะนี้มา สร้างเป็นพระเครื่องวัตถุมงคล เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้ถือกันว่าโลหะที่ได้จากการผสมกันนั้น จะเป็นโลหะชนิดพิเศษมีคุณลักษณะที่เป็นมงคล และมักจะนำมา สร้างเป็นรูปสิ่งสักการบูชา เช่น รูปพระพุทธเจ้า เป็นต้น

"โลหะเมฆสิทธิ์" เป็นเนื้อโลหะพิเศษอีกประเภทหนึ่ง ที่นับว่าหาได้ยาก ซึ่งพระเถระที่มีชื่อเสียงด้านวัตถุมงคลเนื้อเมฆสิทธิ์เห็นจะไม่มีพระเถระรูปใดเกิน หลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม เนื่องจากท่านได้สร้างมงคลวัตถุเนื้อเมฆสิทธิ์ในราวร้อยกว่าปีที่ผ่านมา กล่าวได้ว่าโลหธาตุเนื้อเมฆสิทธิ์นั้นจะมีลักษณะสีเขียวปีกแมลงทับ เมื่อถูกขัดถูแล้วจะมีสีขาวมันวาวคล้ายเงินยวง หลวงพ่อทับมักจะนำเนื้อเมฆสิทธิ์ที่ได้จากการหลอมมา เทเป็นพิมพ์พระมากมายหลายพิมพ์ อาทิ พิมพ์พระปิดตา, พระปางซ่อนหา และพระชัยวัฒน์ เป็นต้น

ปัจจุบันมูลค่าของพระเนื้อเมฆสิทธิ์ของหลวงพ่อทับนั้นอยู่ที่หลายแสนบาท จึงถือได้ว่าเป็นตำนานต้นกำเนิดวัตถุมงคลเนื้อเมฆสิทธิ์ในวงการพระเครื่องของเมืองไทย


ปี 2555 นับเป็นครั้งแรกของการ จัดสร้าง พระพุทธชินราช รุ่นจอมราชันย์ เนื้อเมฆสิทธิ์ อีกทั้งยังเป็นรุ่นแรกของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระพุทธชินราชมานับเป็นเวลาหลายร้อยปี

การทำเนื้อเมฆสิทธิ์ในปัจจุบันนั้นนับว่าหาช่างทำได้ยากมาก โดยเฉพาะสูตรการผสมโลหธาตุให้ครบรวมตามสูตรโบราณ รวมไปถึงการซัดว่านหลากหลายชนิดเข้าสู่เตาหลอมนั้นต้องมีกรรมวิธีเฉพาะ พระพุทธชินราชรุ่นจอมราชันย์ เป็นมงคลวัตถุอีกสายหนึ่งที่ได้จัดสร้างเนื้อเมฆสิทธิ์แบบเต็มสูตรโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังมีช่างที่มีความชำนาญอยู่เฉพาะสายไม่มากนัก และที่พิเศษคือได้นำพิมพ์พระพุทธชินราช รุ่นเสาร์ห้า ปี 2485 วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ มาใช้เป็นพิมพ์พระต้นแบบในรุ่นนี้ ซึ่งในสมัยนั้นจัดสร้างเพียง 50 องค์เท่านั้น มูลค่าความนิยมองค์ละหลายแสนบาท

ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ได้จัดสร้าง พระพุทธชินราช เนื้อเมฆสิทธิ์ เต็มสูตร อันเป็นสูตรผสมโลหะเฉพาะแต่โบราณ กล่าวกันว่า โลหะเมฆสิทธิ์นั้นส่งเสริมและคุ้มครองดวงชะตาแก่ผู้ครอบครอง เป็นครั้งแรกนับแต่มีการบันทึกเรื่องราวการจัดสร้างวัตถุมงคลรูปหลวงพ่อพระพุทธชินราช

ส่วนรูปแบบนั้นได้จำลองรูปพระพุทธชินราช รุ่นเสาร์ห้า หน้าอกเลา ปี 2485 วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ ซึ่งในอดีตมีการจัดสร้างเพียง 50 องค์เท่านั้น โดยได้นำมาเป็นต้นแบบของพระพุทธชินราช รุ่นจอมราชันย์ จึงนับว่าเป็นมงคลวัตถุที่ทรงคุณค่าในรูปแบบ และแฝงไว้ด้วยความเข้มขลังสำหรับพิธีมหาพุทธาภิเษก กำหนดประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกในวันที่ 28-29 ส.ค.2555 ณ มณฑลพิธี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก โดยจะมีพระเถรานุเถระที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศมาร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก

สาธุชนผู้ที่มีความสนใจ สามารถสั่งจองวัตถุมงคลได้ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก, วัดเอี่ยมวรนุช กรุงเทพฯ และที่ เซเว่น-อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น