นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วย นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผอ.สำนักโบราณคดี กรมศิลปากร ตรวจสอบเจดีย์วัดมหรรณพาราม ซึ่งหักโค่นลงมา โดยนายสหวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบถามพระลูกวัดทราบว่าเมื่อดึกเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 30 ต.ค. เกิดพายุฝนตกอย่างหนักทำให้ยอดเจดีย์บริวารภายในวัดมหรรณพารามหักโค่นลงมาอย่างแรง ใส่กุฏิพระลูกวัดรูปหนึ่ง จนหลังคากุฏิแตกกระจายทะลุลงมาถึงฝ้า แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบพบว่า ยอดเจดีย์หักลงมาเป็น 4 ท่อน เหลือแต่แกนใน ส่วนบริเวณเหนือองค์ระฆัง เป็นแกนก่ออิฐถือปูนอยู่ โดยไม่มีลักษณะโครงสร้างแกนเหล็กอยู่เลย
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อว่า ตนสันนิษฐานว่า ส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างของเจดีย์ที่มีอายุยาวนานและไม่มีความแข็งแรง เนื่องจากสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 มีอายุยาวนานถึง 162 ปี โดยได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถานจากกรมศิลปากร ในปี 2532 และอีกประเด็นหนึ่ง ทราบว่า ทางวัดได้ขออนุญาตกรมศิลปากร ในการบูรณะทาสีองค์เจดีย์ และได้ว่าจ้างภาคเอกชนให้มาดำเนินการ โดยติดตั้งนั่งร้านครอบอยู่รอบองค์เจดีย์ ซึ่งเมื่อถูกพายุฝนและลมแรงๆ ก็มีส่วนดึงทำให้เจดีย์เอียง หรือตัวยอดองค์เจดีย์ตั้งแต่ปล้องไฉนลงมาพังลงมาได้
นายสหวัฒน์ กล่าวด้วยว่า กรมศิลปากร ได้มอบหมายให้วิศวกรตรวจสอบอย่างละเอียด โดยมีความเห็นเบื้องต้นว่าการบูรณะ จะต้องใส่แกนเจดีย์ และก่ออิฐกลับขึ้นไปตามรูปแบบเดิม ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้สถาปนิกสวนแบบเจดีย์โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ทางวิศวกรสามารถคำนวณราคาการก่อสร้างได้ ว่าหากใส่แกนเจดีย์มีความสูงด้วยรูปทรงขนาดนี้จะต้องใช้งบประมาณเท่าใด อย่างไรก็ตาม ตนได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่ นางสุกุมล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม ให้ทราบแล้ว โดยนางสุกุมล ขอให้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับงบประมาณในการดำเนินการนั้น ขณะนี้ต้องยอมรับว่ากรมศิลปากร ไม่มีงบประมาณสำรองไว้เลย มีเพียงเงินบูรณะโบราณสถานในเหตุการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ ก็มีสำนักศิลปากรทั่วประเทศ ทยอยของบประมาณเข้ามา เพื่อที่จะนำไปบูรณะโบราณสถานที่ประสบภัยพิบัติ ดังนั้น ทางกรมศิลปากร จะต้องมาจัดลำดับความสำคัญก่อนและหลังว่าสถานที่ใดเหมาะสมที่จะได้รับการบูรณะบ้าง เบื้องต้นจะของบประมาณจากทางวัดมหรรณพารามส่วนหนึ่งมาร่วมบูรณะกับงบของกรมศิลปากรไปก่อน” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว
ด้าน พระราชสุดกวี เจ้าอาวาสวัดมหรรณพาราม กล่าวว่า ทางวัดมหรรณพาราม พร้อมให้ความร่วมมือในด้านงบประมาณส่วนหนึ่งในการบูรณะ ซึ่งต้องการให้กรมศิลปากรเร่งเข้ามาดำเนินการโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ นายธราพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการบูรณะและซ่อมแซมเศียรยักษ์ยอดพระปรางค์องค์เล็ก ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวัดอรุณราชวราราม ซึ่งถูกฟ้าผ่าช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยในวันที่ 31 ตุลาคม เวลา 10.00 น. ที่วัดอรุณราชวราราม กรมศิลปากรจะแถลงความคืบหน้าการบูรณะ รวมถึงแผนการบูรณะ และวิธีการบูรณะหลังจากนี้ และจะรื้อนั่งร้านออกทั้งหมด เพื่อเตรียมการจัดการงานพระราชพิธีกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค
*************************
ข่าวโดย : ไทยรัฐออนไลน์
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น