วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

"พระพายัพ" เป็นพระครูปลัดฯ ผิดตรงไหน!!!

กระแสข่าวการตั้ง พระพายัพ เป็นพระครูปลัดฯ สร้างความฮือฮา(เครียดเล็กๆ) ให้กับฝ่ายตรงข้ามอดีตนายกฯทักษิณ เป็นอย่างมาก

หลายๆ ฝ่ายที่หน้าแดง ห่มเหลือง ดาหน้าออกมาชี้แจง.... ว่าเป็นแค่ฉายาจากพระอุปัชฌาย์เท่านั้น

“ยันไม่ใช่สมณศักดิ์” และยังมีอีกหลายฝ่ายที่รอจังหวะเฉกเช่นนี้ ถึงขนาดลงทุนตั้งวงถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก โดยเฉพาะในโลกออนไลน์!!!

เท้าความตามท้องเรื่อง หลังจากที่ พระพายัพ เขมะคุโณ หรือ นายพายัพ ชินวัตร น้องชายอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร

สวมชฎาหัวโขน ได้รับการแต่งตั้งจากท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส หรือที่ในวงการสงฆ์ดงขมิ้น เรียกท่านจนติดปากว่า “หลวงน้าสมชาย”


โดยท่านได้สวมพระพายัพ ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง “พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์”

ทั้งๆ ที่อุปสมบทไม่ถึง 10 พรรษา โดยมีผู้รู้ในวงการสงฆ์ตีธงมาว่า ตามหลักเกณฑ์กำหนดของวงการศาสนานั้น เป็นเพียงแค่การตั้งฉายาของพระอุปัชฌาย์เท่านั้น ไม่ใช่สมณศักดิ์ตามที่หลายฝ่ายเข้าใจผิด แต่อย่างใด

ทั้งนี้ผู้คร่ำหวอด ยังได้ยืนยันอีกว่า การจะแต่งตั้งพระภิกษุให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่งนั้น จะต้องผ่านการอุปสมบทมาแล้วอย่างน้อย 5 พรรษา รวมถึงต้องเป็นพระที่ทำประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง!!!

และต้องมีการเผยแพร่ศาสนา ให้เป็นที่ปรากฏชัดต่อสังคม???

ขณะเดียวกันก็ต้องมีการเสนอชื่อ และได้รับการพิจารณาจากมติของมหาเถรสมาคมอีกด้วย

งานนี้ก็ต้องเจาะไปที่ “หลวงน้าสมชาย” หรือนามตามสมณศักดิ์ของท่านคือ เจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ว่าท่านมีเหตุผลเช่นไร ถึงได้เสนอแต่งตั้งพระพายัพ เขมคุโณ ให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่ง "พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์"

ทั้งๆที่เพิ่งจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 10  กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่ วัดป่าพุทธคยา ประเทศอินเดีย และมีกำหนดลาสิกขาไปแล้วเมื่อวันที่ 11  มีนาคม ที่ผ่านมา

นัยยะที่ว่าไม่เหมาะสมนั้น ชาวพุทธต้องรู้ และควรรู้ ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติของพระสงฆ์ไทยแลนด์ ต้องอุปสมบทมาแล้ว 10 ปีขึ้นไป ไฉนเลย ถึงตั้งได้ หลายคนงง......บางคนบอกว่า ... “งานเข้าวัดเทพศิรินทร์ เสียแล้ว!!!!”

งานนี้ผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ออกมาชี้แจงต่อเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเหมือนเดิม และมีการโยนให้สมเด็จพระธีรญาณมุนีเป็นผู้ชี้แจงเอง

ขณะเดียวกันคนที่ออกมาพูด ก็พูดผิดบ้างถูกบ้าง ....

ส่วนทาง นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา ก็ยังคงยืนยันว่าเป็นเพียงฉายา โดยชื่อของพระพายัพขึ้นต้นด้วยตัว “พ.” สมมุติว่าตนบวชเป็นพระ ชื่อขึ้นต้นด้วย “ป.” ก็อาจจะมีฉายาเป็น “ปัทธโร” ดังนั้น พระครูปลัดฯ ของพระพายัพไม่ใช่สมณศักดิ์ของพระ

จุดตรงดูเหมือนว่านายปรีชาจะชี้แจงคลาดเคลื่อนไป เพราะหากจะบอกคำว่า พระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์ ไม่ใช่สมณศักดิ์ของพระพายัพแต่เป็นฉายาแล้วทำไมพระอุปัชฌาย์ถึงไม่ตั้งคำนี้มาตั้งแต่ตอนบวช แต่ได้ตั้งคำว่า "เขมคุโณ" ให้เป็นฉายาตั้งแต่ต้น

กล่าวสำหรับเรื่องสมณศักดิ์ ได้มีการวางหลักเกณฑ์ไว้อย่างหลวมๆ เน้นการศึกษาพระปริยัติธรรม การเผยแผ่พระศาสนา การสาธารณสงเคราะห์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองและการพระศาสนาในขณะนั้นๆ

ในทางวิชาหลักเกณฑ์การพิจารณาแต่งตั้งสมณศักดิ์ พระสังฆาธิการ ผู้สมควรได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง ต้องประกอบด้วยคุณลักษณะ ต้องเป็นพระสังฆาธิการตั้งแต่ระดับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ขึ้นไป และมีพรรษาตั้งแต่ 10 ขึ้นไป เว้นแต่มีกรณีพิเศษ

ถ้าเป็นเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ต้องดำรงตำแหน่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปีบริบูรณ์โดยให้นับตั้งแต่วันเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ หรือเป็นรองเจ้าอาวาสวัดราษฎร์มารวมด้วยหรือถ้าเป็นพระครูประทวนสมณศักดิ์ ต้องเป็นมาเกิน 3 ปี ทั้งนี้ เว้นแต่มีกรณีที่ควรยกย่องเป็นพิเศษ และเว้นแต่เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง

ถ้าเป็นเจ้าคณะตำบล ต้องดำรงตำแหน่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปีบริบูรณ์ โดยให้นับตั้งแต่วันเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ รองเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ หรือเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราษฎร์มารวมด้วย แต่อย่างมากต้องไม่เกิน 4 ปี ถ้ามิได้เป็นเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ให้แจ้งด้วยว่าเจ้าอาวาสวัดราษฎร์นั้นเป็น สัญญาบัตรแล้วหรือยัง

ถ้าเป็นรองเจ้าอาวาสวัดราษฎร์หรือเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ให้นำความใน ข้อ 2.และข้อ 3. มาใช้โดยอนุโลมตามควรแก่กรณี แต่ต้องได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งนั้นๆ ถูกต้องแล้วและต้องมีพระภิกษุสามเณร (เฉพาะในวัดของตน) อยู่จำพรรษามาพอสมควร หรือปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาสผู้ทุพพลภาพ หรือชราภาพ

ถ้าเป็นเจ้าคณะอำเภอ หรือเป็นเจ้าคณะจังหวัด หรือเป็นที่ปรึกษาให้พิจารณาตามความเหมาะสมในการปกครอง แต่ต้องดำรงตำแหน่งมาเกิน 1 ปีแล้ว และมีผลงานในหน้าที่ดีพอสมควร

ถ้าเป็นรองเจ้าอาวาสพระอารามหลวงหรือเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงต้อง ดำรงตำแหน่งมาเกิน 1 ปีแล้ว และมีผลงานช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงตามที่ระบุไว้ในการเสนอขอแต่งตั้ง หรือตามที่เจ้าอาวาสวัดราษฎร์มอบหมายและในวัดนั้น มีสัญญาบัตรกี่รูป มีราชทินนามอะไรบ้าง

ถ้าเป็นรองเจ้าคณะอำเภอ หรือเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดให้พิจารณาตามความเหมาะสมในการปกครอง

ในเขตอำเภอหนึ่ง ให้พิจารณาแต่งตั้งสมณศักดิ์พระครูสัญญาบัตรได้ 1 รูป เว้นแต่มีกรณีพิเศษ (คือมีพระสังฆาธิการตำแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวงผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง) หรือในเขตอำเภอที่มีวัดเกินกว่า 50 วัดขึ้นไป ให้พิจารณาแต่งตั้งได้ 2 รูป หรือในเขตอำเภอที่มีวัดเกินกว่า 100วัดขึ้นไป ให้พิจารณาแต่งตั้งได้ 3 รูปเป็นกรณีพิเศษ

ถ้ามีพระภิกษุ เฉพาะในวัดของตน อยู่จำพรรษาครบคณะสงฆ์ขึ้นไป หรือมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาไม่ครบคณะสงฆ์ แต่มีสามเณรอยู่จำพรรษามากพอสมควร โดยให้นับจากปีปัจจุบันย้อนหลังไป 3 พ.ศ.

ถ้ามีพระภิกษุสามเณร เฉพาะในวัดของตน ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมและสมัครสอบในสนามหลวงจำนวนมากพอสมควร โดยให้นับจากปีปัจจุบันย้อนหลังไป 3 พ.ศ.

คุณสมบัติด้านสาธาณูปการ สำหรับการพิจารณาแต่งตั้งสมณศักดิ์ ต้องมีผลงานสาธาณูปการ ได้แก่ การก่อสร้างและบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน หรือถาวรวัตถุมาประกอบการพิจารณาด้วย ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งบ่งบอกถึงแรงศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระสงฆ์รูปนั้นๆ แต่การรายงานให้บอกจำนวนเงินค่าก่อสร้างค่าบูรณะปฏิสังขรณ์ และรายละเอียดของสิ่งก่อสร้างและการบูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุโดยให้เริ่มนับ ตั้งแต่เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส หรือถ้าเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส หรือถ้าเป็นรองเจ้าอาวาสที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสเป็นต้นไปจนถึง ปัจจุบันว่า มีจำนวนมากพอสมควร ยกตัวอย่าง เช่น

ในเขตปกครองหนกลาง ต้องมีจำนวนเงินที่ได้ใช้จ่ายในการก่อสร้าง และปฏิสังขรณ์แล้ว จำนวนตั้งแต่หนึ่งล้านบาท ขึ้นไป

ในเขตปกครองหนเหนือ หนตะวันออก และหนใต้ ต้องมีจำนวนเงินที่ได้ใช้ในการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์แล้ว จำนวนตั้งแต่ หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท ขึ้นไป

เฉพาะในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 4 และภาค 5 ต้องมีจำนวนเงินที่ได้ใช้จ่ายในการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์แล้ว จำนวนตั้งแต่ห้าแสนบาท ขึ้นไป

นี่คือตัวอย่างแบบหลวมๆ ของการขอสมณศักดิ์ ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง เพราะเรื่องของพระพายัพ ไปถามใครก็ตอบไม่ชัดเจน และบางรายท่านก็ไม่ยอมตอบ

ฉะนั้นประชาชนญาติโยมพุทธศาสนิกชน ก็ต้องคิดเอง ตัดสินใจเองก็แล้วกันว่า ดีหรือไม่อย่างไร เหมาะสมหรือไม่ประการใด สำหรับปริศนาธรรมสมณศักดิ์นี้!!??!!

*************************

เรื่องโดย : ดินสอดำ
เรียบเรียงโดย : เต้ มงคลพระ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น