กำหนดให้เสร็จในเดือน ต.ค.นี้ จากนั้นจะจัดพิธีเปิดในวันที่ 22 ธ.ค. และ จัดพิธีสมโภช ระหว่างวันที่ 23-31 ธ.ค. ซึ่งในการจัดงานสมโภชจะงดงานรื่นเริงทุกชนิด จะให้มีแต่การปฏิบัติธรรมเท่านั้น
ทั้งนี้ การจัดสร้างพระมหาเจดีย์ฯ ใช้งบฯ ทั้งสิ้น 300 ล้านบาท ได้รูปแบบมาจากเจดีย์ของวัดโลกโมฬี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยสร้างเป็นเจดีย์สถาปัตยกรรมไทย ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ประยุกต์ผสมผสานระหว่างศิลปะยุครัตนโกสินทร์กับศิลปะล้านนา มีความสูงจากฐานถึงยอด 80 เมตร กว้าง 52 เมตร สูง 52 เมตร มี 5 ชั้น
ซึ่งจุดเด่นนอกจากเจดีย์แก้วที่ประดิษฐานอยู่บนชั้น 5 ซึ่งเป็นเจดีย์แก้วที่มีความสูง 8 เมตร สร้างจากกระจกที่มีความหนา 1 เซนติเมตร ซ้อนกัน 800 ชั้น ที่มีอยู่หนึ่งเดียวในประเทศไทยแล้ว อีกจุดเด่นหนึ่งของพระมหาเจดีย์ฯ ก็คือ บานประตูทางเข้าบริเวณชั้น 2 ของพระมหาเจดีย์ฯ จำนวน 4 บานประตูที่มีมูลค่าบานประตูละ 2 ล้านบาท สำหรับบานประตูดังกล่าวมีขนาดกว้าง 1.87 เมตร สูง 2.20 เมตร รวม 4 บาน ทำจากไม้สักทอง และแกะสลักเป็นรูปท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ประกอบด้วย ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ และท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวัณ ซึ่งตามความเชื่อในพระพุทธศาสนา เพื่อคอยให้ความคุ้มครอง และคอยดูแลรักษา โดยมีการลงรักปิดทองอย่างสวยงามจากทองคำเปลว 1 แสนแผ่น พร้อมทั้งประดับด้วยคริสตัล คิดเป็นมูลค่าบานประตูละ 2 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในส่วนของชั้นอื่นๆ ของพระมหาเจดีย์ฯ คือ
ชั้นที่ 4 จะเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อสดองค์ใหญ่
ชั้นที่ 3 เป็นพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
ชั้นที่ 2 เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
และชั้นที่ 1 เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน
ขณะนี้ประชาชนสามารถเข้าชมความงดงามของพระมหาเจดีย์ฯ เจดีย์แก้ว
และบานประตูแกะสลักท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ได้แล้ว
ด้าน พระวิเชียรกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กล่าวว่า เนื่องจากทางเข้าชั้น 2 อยู่ด้านหน้าของพระมหาเจดีย์ฯ จึงเสนอไปยังสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ว่าควรที่จะสร้างประตูทางเข้าชั้น 2 ให้เป็นจุดเด่นและสะดุดตา จึงเกิดแนวคิดในการสร้างเป็นบานประตูไม้สักทองแกะสลักขึ้น ส่วนเหตุที่แกะสลักเป็นท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เพื่อขอให้คอยคุ้มครองพระมหาเจดีย์ฯ เพราะตามความเชื่อตามหลักของพระพุทธศาสนาแล้ว คือ ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เป็นผู้รักษาคุ้มครองโลกทั้ง 4 ทิศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น