อานิสงส์ของบุญนั้น มี ๓ ประการ ได้แก่
๑. ชมเชย
๒. เบียดเบียน
๓. ไหลออกอยู่เป็นนิตย์
ความหมายประการที่ ๑ ชมเชย หมายความว่า ความดีต่าง ๆ ที่บุคคลได้กระทำไว้แล้ว จะต้องได้รับผลของความดีตอบสนอง เมื่อผู้อื่นเห็นผู้ทำได้รับความสุขความเจริญ ก็พากันยกย่องชมเชยว่า “เป็นผู้มีบุญนะ” และเราก็คงเคยได้ยินคำพูดว่า “คนนี้มีบุญจังเลย คนนี้บุญบารมีสูงมาก” ในทำนองนี้
ความหมายประการที่ ๒ เบียดเบียน หมายความว่า ผลของความดีต่าง ๆ ที่ตนได้กระทำแล้วนี้ จะเข้าไปทำหน้าที่เบียดเบียนผลของความชั่วที่เคยได้กระทำไว้ให้ตกไป ไม่มีโอกาสให้ผล
และยังสามารถปกป้องผู้กระทำความดีนั้นไม่ให้ตกไปในทางชั่วอีก เพราะจะคอยเบียดเบียนความร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา และเบียดเบียนพฤติกรรมชั่วต่าง ๆ ให้เราไม่กล้าทำ และไม่มีโอกาสได้รับผลของกรรมชั่วนั้น เพราะว่าอำนาจของความดีมีกำลังแรงอยู่
ความหมายประการที่ ๓ ไหลออกอยู่เป็นนิตย์ หมายความว่า ความดีต่าง ๆ ที่บุคคลได้กระทำแล้วย่อมให้ผลที่ดีตอบสนองเสมอ หรือเรียกว่าให้ผลอยู่เป็นนิตย์ และจะนำไปสู่ผลอันสูงสุดที่พึงปรารถนาของเหล่ามนุษย์ เทวดา และพรหม คือ การบรรลุมรรค ผล นิพพาน นั่นเอง
หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การไหลออกนั้นเป็นการไหลออกของอกุศลมูล เปรียบเสมือนน้ำในอ่างบัวที่ขุ่นข้น เมื่อเราเอาน้ำใส่ผ่านสายยางแล้วหย่อนลงไปในอ่างบัวให้ลึกถึงก้นอ่าง น้ำขุ่นก็จะค่อย ๆ ไหลออกไปจนใสได้ ซึ่งไม่ต่างกับการถ่ายเทความชั่วออก นั่นเอง
อานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูปเพื่อสักการบูชา
จะได้ไปเกิดในเทวโลก มียศถาบรรดาศักดิ์มาก มีอานุภาพมาก เหมือนดังพระอาทิตย์ที่มีรัศมีอันแรงกล้า จะได้เสวยสุขอันเป็นทิพย์ มีเหล่าเทพบุตรเทพธิดาแวดล้อมคอยบำรุงบำเรอเสมอ
ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ก็จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ หรือ พระราชามหากษัตริย์
จะได้เกิดในตระกูลที่สูงศักดิ์ มีทรัพย์มาก มีบริวารมาก
มีรูปร่างสมส่วน มีอวัยวะครบถ้วนบริบูรณ์ มีผิวพรรณผ่องใส
มีอายุยืน มีจิตใจน้อมไปในศีล สมาธิ ปัญญา
ถ้ายังไม่บรรลุมรรค ผล นิพพาน ในปัจจุบัน จะได้เกิดในศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรย์ ซึ่งท่านจะมาโปรดสัตว์รื้อสัตว์ในอนาคตกาล
จะมีปัญญาคมกล้า สามารถตัดกิเลสตัณหาให้หมดสิ้นไปได้
ถ้าตั้งความปรารถนาเพื่อบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ เป็นพระพุทธเจ้า
๒. เบียดเบียน
๓. ไหลออกอยู่เป็นนิตย์
ความหมายประการที่ ๑ ชมเชย หมายความว่า ความดีต่าง ๆ ที่บุคคลได้กระทำไว้แล้ว จะต้องได้รับผลของความดีตอบสนอง เมื่อผู้อื่นเห็นผู้ทำได้รับความสุขความเจริญ ก็พากันยกย่องชมเชยว่า “เป็นผู้มีบุญนะ” และเราก็คงเคยได้ยินคำพูดว่า “คนนี้มีบุญจังเลย คนนี้บุญบารมีสูงมาก” ในทำนองนี้
ความหมายประการที่ ๒ เบียดเบียน หมายความว่า ผลของความดีต่าง ๆ ที่ตนได้กระทำแล้วนี้ จะเข้าไปทำหน้าที่เบียดเบียนผลของความชั่วที่เคยได้กระทำไว้ให้ตกไป ไม่มีโอกาสให้ผล
และยังสามารถปกป้องผู้กระทำความดีนั้นไม่ให้ตกไปในทางชั่วอีก เพราะจะคอยเบียดเบียนความร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา และเบียดเบียนพฤติกรรมชั่วต่าง ๆ ให้เราไม่กล้าทำ และไม่มีโอกาสได้รับผลของกรรมชั่วนั้น เพราะว่าอำนาจของความดีมีกำลังแรงอยู่
ความหมายประการที่ ๓ ไหลออกอยู่เป็นนิตย์ หมายความว่า ความดีต่าง ๆ ที่บุคคลได้กระทำแล้วย่อมให้ผลที่ดีตอบสนองเสมอ หรือเรียกว่าให้ผลอยู่เป็นนิตย์ และจะนำไปสู่ผลอันสูงสุดที่พึงปรารถนาของเหล่ามนุษย์ เทวดา และพรหม คือ การบรรลุมรรค ผล นิพพาน นั่นเอง
หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การไหลออกนั้นเป็นการไหลออกของอกุศลมูล เปรียบเสมือนน้ำในอ่างบัวที่ขุ่นข้น เมื่อเราเอาน้ำใส่ผ่านสายยางแล้วหย่อนลงไปในอ่างบัวให้ลึกถึงก้นอ่าง น้ำขุ่นก็จะค่อย ๆ ไหลออกไปจนใสได้ ซึ่งไม่ต่างกับการถ่ายเทความชั่วออก นั่นเอง
อานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูปเพื่อสักการบูชา
จะได้ไปเกิดในเทวโลก มียศถาบรรดาศักดิ์มาก มีอานุภาพมาก เหมือนดังพระอาทิตย์ที่มีรัศมีอันแรงกล้า จะได้เสวยสุขอันเป็นทิพย์ มีเหล่าเทพบุตรเทพธิดาแวดล้อมคอยบำรุงบำเรอเสมอ
ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ก็จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ หรือ พระราชามหากษัตริย์
จะได้เกิดในตระกูลที่สูงศักดิ์ มีทรัพย์มาก มีบริวารมาก
มีรูปร่างสมส่วน มีอวัยวะครบถ้วนบริบูรณ์ มีผิวพรรณผ่องใส
มีอายุยืน มีจิตใจน้อมไปในศีล สมาธิ ปัญญา
ถ้ายังไม่บรรลุมรรค ผล นิพพาน ในปัจจุบัน จะได้เกิดในศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรย์ ซึ่งท่านจะมาโปรดสัตว์รื้อสัตว์ในอนาคตกาล
จะมีปัญญาคมกล้า สามารถตัดกิเลสตัณหาให้หมดสิ้นไปได้
ถ้าตั้งความปรารถนาเพื่อบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ เป็นพระพุทธเจ้า
ผลานิสงส์ในการสร้างพระพุทธรูปเพื่อสักการบูชานี้ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้สมความปรารถนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น