วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หลวงพ่อโม วัดจันทนาราม เจ้าของตะกรุดโทนอันโด่งดัง

"หลวงพ่อโม ธัมมรักขิโต" วัดจันทนาราม ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
 พระคณาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชัยนาท เจ้าของตะกรุดโทนอันโด่งดัง

หลวงพ่อโม เป็นชาวห้วยกรดโดยกำเนิด เกิดในสกุล "คงเจริญ" เมื่อปีมะเมีย พ.ศ.2413 ณ บ้านบางยายอ้น ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

บวชเณรตั้งแต่อายุได้ 8 ขวบ จนกระทั่งอายุครบ 20 ปี จึงอุปสมบท 
ณ พัทธสีมาวัดใหม่บำเพ็ญบุญ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านท่าน โดยมี 
หลวงพ่อเถื่อน วัดใหม่บำเพ็ญบุญ เป็นพระอุปัชฌาย์ 
หลวงพ่อคง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ 
หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์






หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้จำพรรษา ณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ทั้งภาษาไทย และภาษาบาลี เรียนพระปริยัติธรรมเบื้องต้นได้ท่อง 7 ตำนาน 12 ตำนาน ได้เรียนภาษาขอม เรียนวิปัสสนากรรมฐาน และวิทยาคมกับหลวงพ่อม่วง หลวงพ่อเถื่อน และหลวงพ่อคง ที่วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวห้วยกรด และจังหวัดชัยนาท ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

ในยุคนั้น กิตติศัพท์ความเข้มขลังด้านวิทยาคมของ หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง เป็นที่กล่าวขวัญของชาวห้วยกรด ท่านจึงได้ไปเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อโต ที่อำเภอสรรคบุรี เรียนรุ่นเดียวกับ หลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆราม

หลวงพ่อคง เล็งเห็นว่าหลวงพ่อโม มีสติปัญญาดี เฉลียวฉลาด สนใจทางวิทยาคม ยาสมุนไพร และแพทย์แผนโบราณ หลวงพ่อคงจึงได้พาหลวงพ่อโมไปฝากกับอาจารย์ของท่าน คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เมื่อปีพ.ศ.2451

หลวงพ่อโม ได้เป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข เรียนวิทยาคม ตำรายาสมุนไพร และตำราแพทย์แผนโบราณกับหลวงปู่ศุข เป็นเวลา 5 ปี จนกระทั่งในปีพ.ศ.2456 จึงได้เดินทางกลับวัดใหม่บำเพ็ญบุญ

ในขณะนั้น หลวงพ่อเถื่อนซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่บำเพ็ญบุญ ได้มรณภาพลง หลวงพ่อคง จึงได้เป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่บำเพ็ญบุญแทน

พ.ศ.2457 ญาติพี่น้องของหลวงพ่อโม ได้ร่วมกันซื้อที่ดินติดวัดร้างเดิมรวมประมาณ 30 ไร่ เพื่อสร้างวัดขึ้นใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อต้องการอานิสงส์ ในการถวายที่ดิน ทั้งนี้ ชาวบ้านห้วยกรดให้ความศรัทธาในเรื่องความแก่กล้าทางคุณวิเศษ และอาคมของท่าน จึงได้นิมนต์หลวงพ่อโมจากวัดใหม่บำเพ็ญบุญ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของ "วัดจันทนาราม"

หลวงพ่อโม เป็นพระสมถะ มักน้อย สันโดษ มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ภายหลังท่านได้รับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์

หากมีเวลาว่าง ท่านจะนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่เสมอ นั่งสมาธิ ทำวัตรเช้าตั้งแต่ตี 4 ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงให้ความเคารพนับถือท่านมาก และนำลูกหลานของตนมาให้ท่านได้บวชมากมาย

กระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2502 เวลาประมาณ 4 ทุ่ม หลวงพ่อโมได้ถึงแก่มรณภาพลง เหตุอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น คือ เต่าที่ได้เลี้ยงไว้ตัวใหญ่มากได้คลานขึ้นมาจากสระ หมอบนอนน้ำตาไหลข้างกุฏิของท่าน นกยูง และไก่ต๊อก ที่ท่านเลี้ยงไว้ไม่ส่งเสียงร้อง ประหนึ่งว่าพวกสัตว์เหล่านั้นจะรับรู้ว่าหลวงพ่อโม ที่มีความเมตตาต่อพวกมันได้จากไปเสียแล้ว

ในสมัยนั้นไม่มีการใช้ยาฉีดศพแต่ศพของหลวงพ่อโม ไม่มีการเน่าเปื่อย ถึงแม้ศพของท่านจะใส่ไว้ในโลงไม้ธรรมดาไว้นานเกือบปี โดยไม่ฝังดินก็ตาม

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2503 คณะกรรมการวัดจันทนาราม ได้จัดงานพิธีฌาปนกิจศพของหลวงพ่อโม

แม้หลวงพ่อโม จะละสังขารไปนานกว่า 50 ปี แต่คุณงามความดียังคงจารึกไว้ในศรัทธาของชาวเมืองชัยนาทสืบไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น